เชื่อว่าการรีโนเวทซ่อมแซมบ้านมือสองนั้นคงจะเป็นหนึ่งในการลงทุนภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ใครหลายคนกำลังให้ความสนใจ ด้วยขั้นตอนการทำงานที่ไม่ได้มีความซับซ้อนมากเท่ากับการทำบ้านเดี่ยวมือหนึ่งหรือโครงการจัดสรรที่มีขนาดใหญ่นักลงทุนจึงเริ่มเบนเข็มทิศมาทางนี้เป็นอันดับแรกเพื่อปูทางสู่การทำบ้านที่มีแผนงานใหญ่ขึ้น
แต่ทว่าความเรียบง่ายที่ปรากฏให้เห็นนั้นก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของภูเขาน้ำแข็งที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้มหาสมุทร ความซับซ้อนและร้อยแปดปัญหาไม่มีทางโผล่ขึ้นมาให้เห็นตราบใดที่ยังไม่ได้เข้าไปสัมผัสมันด้วยตนเอง ซึ่งท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่เคยคิดว่าง่ายก็คงไม่ได้ง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปากอย่างที่ใครต่อใครพูดกัน และที่มากไปกว่านั้นยิ่งเนื้องานมีขนาดเล็กลงเท่าไหร่ก็จะเกิดปัญหาตามมาได้ง่ายเท่านั้น
หากพูดถึงการรีโนเวทบ้านที่ต้องอาศัยการวางแผนและความระมัดระวังมากที่สุดก็คงไม่พ้นตึกแถวหรือบ้านทาวน์เฮาส์เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าสิ่งปลูกสร้างสองประเภทนี้จะมีเส้นกั้นแบ่งความเป็นเจ้าของของบ้านแต่ละหลังโดยใช้ผนังห้องแค่ไม่กี่คืบ ฉะนั้นนักลงทุนที่จะทำบ้านมือสองหรือคนที่กำลังวางแผนจะปรับปรุงบ้านอยู่ในตอนนี้จึงต้องกลับมาทำความเข้าใจก่อนว่าการรีโนเวทบ้านสองประเภทนี้ต้องรู้อะไรบ้าง
1. รู้อายุการใช้งานของสิ่งปลูกสร้าง
เรื่องสำคัญที่เจ้าของใหม่หรือนักลงทุนบ้านมือสองจะต้องทราบคือบ้านหลังนั้นมีอายุการใช้งานมาแล้วทั้งหมดกี่ปี ไม่ใช่เพียงแค่ตึกแถวหรือบ้านทางน์เฮาส์เท่านั้นแต่ยังรวมถึงสิ่งปลูกสร้างรูปแบบอื่น ๆ ด้วย เพราะเมื่อมีการอยู่อาศัยมาเป็นระยะเวลานานจะทำให้วัสดุที่ใช้นั้นเสื่อมสภาพลงไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างหลักอย่างเสา คาน หรือพื้นผนังปูน ยังไม่รวมถึงระบบไฟฟ้าและประปาที่อาจส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อผู้ที่จะเข้ามาอยู่อาศัยในอนาคตด้วย อีกทั้งจะได้ทำการประเมินค่าซ่อมแซมด้วยว่างบประมาณการรื้อถอนและการต่อเติมนั้นจะคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่
2. รู้ลิมิตการต่อเติม
บ้านทาวน์เฮาส์หรือตึกแถวนั้นต่างก็ต้องมีผนังไม่ฝั่งใดก็ฝั่งหนึ่งติดกับเพื่อนบ้านข้างเคียง ดังนั้นเรื่องการต่อเติมออกไปด้านข้างจึงไม่สามารถทำได้อยู่แล้วแต่จะอาศัยการต่อเติมส่วนด้านหน้าบ้านและด้านหลังแทน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มักจะมีข้อสงสัยขึ้นมาตาม ๆ กันว่าการต่อเติมที่ว่าสามารถทำได้เต็มพื้นที่หรือไม่ ซึ่งคำตอบก็แน่นอนอยู่แล้วว่าทำไม่ได้เนื่องจากมีข้อกำหนดตามกฎหมายว่าถ้าเป็นตึกแถวจะต้องเว้นพื้นที่ด้านหลังซึ่งไม่มีสิ่งปกคลุมอย่างน้อย 3 เมตรเพื่อใช้เป็นทางสำหรับหนีไฟ ส่วนทาวน์เฮาส์ต้องเว้นระยะด้านหน้าอย่างน้อย 3 เมตรและด้านหลังอย่างน้อย 2 เมตร ในกรณีที่เจ้าของบ้านมีการต่อเติมพื้นที่เกิน 5 เมตรหรือมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างจะต้องทำการขออนุญาตก่อสร้างก่อนและต้องมีหนังสือยินยอมให้ทำการต่อเติมจากเพื่อนบ้านข้างเคียงด้วย
คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ
3. รู้ว่าขอบเขตความเป็นเจ้าของอยู่ตรงไหน
เมื่อบ้านแต่ละหลังเชื่อมต่อกันทั้งหมดไม่ว่าเป็นโครงสร้างผนัง หลังคา หรือรากฐานของโครงสร้างหลัก ฉะนั้นเมื่อทำการรีโนเวทแต่ละครั้งจึงต้องคำนึงถึงผลกระทบที่จะส่งไปถึงบ้านข้างเคียงที่ใช้โครงสร้างร่วมกันอยู่ทั้งการเจาะผนังเพื่อต่อเติมหรือติดตั้งระบบต่าง ๆ ที่อาจจะทำให้ผนังได้รับการกระทบกระเทือนจนทำให้เกิดรอยร้าวหรือผนังทะลุไปอีกฝั่ง หรือแม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หลายคนมองข้ามอย่างการทำหลังคาเหลื่อมล้ำกันทำให้น้ำไหลลงไปทางบ้านของเพื่อนบ้านมากกว่า หรือการติดตั้งส่วนขยายอื่น ๆ ที่ยื่นไปในอาณาเขตของบ้านข้างเคียง แม้จะมองว่าเป็นเรื่องเล็กที่ไม่น่าหยิบมาเป็นประเด็นแต่ทว่าสิ่งเหล่านี้กลับเป็นปัญหาเรื้อรังที่แก้ไม่หายและมีการฟ้องร้องกันมานักต่อนักแล้ว
4. การเตรียมงานก่อนการรีโนเวท
พื้นที่ของตึกแถวและบ้านทาวน์เฮาส์นั้นเดิมทีก็มีจำกัดและเล็กน้อยมากพออยู่แล้วแต่เมื่อจะทำการปรับปรุง ต่อเติม หรือทำการซ่อมแซมก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะต้องสำรองพื้นที่ไว้สำหรับการจัดเก็บวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง ฉะนั้นคงจะเป็นเรื่องที่ดีและกินพื้นที่น้อยกว่าหากว่าผู้รับเหมาหรือเจ้าของบ้านเลือกที่จะใช้วัสดุสำเร็จรูปแทนการดำเนินงานหลาย ๆ ขั้นตอนที่หน้างานจริง หรือถ้าหากว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ควรเริ่มทำการต่อเติมจากชั้นบนลงมาก่อนโดยใช้ชั้นล่างชั้นแรกเป็นที่สำหรับจัดเก็บอุปกรณ์และวัสดุก่อสร้างต่าง ๆ เมื่อทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยค่อยตามมาเก็บงานด้านล่างทีหลัง
5. ลดการรบกวนให้น้อยที่สุด
เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีทางเลือกให้กับเหล่าเพื่อนบ้านในละแวกข้างเคียงเลยเมื่อภายในโครงการมีบ้านหลังใดหลังหนึ่งทำการก่อสร้างซ่อมแซมบ้านใหม่ แต่เสียงรบกวนก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้รับเหมาหรือคนที่กำลังต่อเติมบ้านเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน เมื่อต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผลเป็นของตัวเองดังนั้นจึงควรหาจุดกึ่งกลางที่เหมาะสมนั่นก็คือลดขั้นตอนที่จะทำให้เกิดเสียงดังนั้นลงเสีย ซึ่งวิธีนี้ผู้รับเหมาหรือเจ้าของบ้านก็มักจะนำมาใช้กันบ่อย ๆ โดยการซื้อวัสดุที่พร้อมประกอบแบบสำเร็จรูปมาประกอบที่หน้างาน ขั้นตอนนี้ไม่เพียงแค่จะช่วยในเรื่องของการลดเสียงรบกวนแต่ยังช่วยให้เนื้องานนั้นสามารถเสร็จสิ้นได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็วด้วย
สำหรับการรีโนเวทบ้านมือสองแม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินความสามารถจนเกินไปแต่เรื่องของค่าใช้จ่ายก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ฉะนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมก่อนการซ่อมแซมแต่ละครั้งจึงต้องมีการวางแผนและศึกษาเกี่ยวกับเรื่องราวข้างต้นนั้นก่อน ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการควบคุมค่าใช้จ่ายและเป็นการป้องกันปัญหาใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นมาในภายหลังนั่นเอง
คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ
อ้างอิง:
7 เรื่องต้องรู้ การรีโนเวตตึกแถว ทาวน์เฮ้าส์ จาก https://www.baanlaesuan.com/223743/maintenance/renovate-rowhouse
รีโนเวทตึกแถวอย่างไรให้ถูกต้องและไม่รบกวนเพื่อนบ้าน จาก https://bit.ly/3vtPLdr
หมายเหตุ: เป็นการแปลและเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
เรียบเรียงโดย: ศุภธิดา รัสพันธ์
คอนเทนต์ครีเอเตอร์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Freepik