ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณพูดในการสัมภาษณ์งานก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้ว่าจ้างงานตัดสินใจได้ว่าคุณเหมาะสมกับงานนี้หรือไม่
ขณะที่คุณสัมภาษณ์งาน บางครั้งการตอบคำถามที่คุณคิดว่าเหมาะสมนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่ในทางกลับกัน อาจทำให้คุณเสียคะแนนได้ จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ต้องคิดให้รอบคอบก่อนที่จะพูดอะไรในการสัมภาษณ์
นี่คือ 6 คำตอบที่ควรหลีกเลี่ยง หากคุณต้องการเพิ่มโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการสัมภาษณ์งาน พร้อมด้วยเคล็ดลับและตัวอย่างที่คุณควรจะพูดแทน
1. “กล้าที่จะเป็นผู้นำในทุกๆ ด้าน“
ผู้สมัครงานหลายคนมักจะตอบแบบนี้เมื่อต้องตอบคำถามเกี่ยวกับจุดแข็งหรือคุณสมบัติเด่นของพวกเขา
นี่เป็นคำตอบทั่วไปที่ควรจะตอบก็จริง และถ้าคุณเลือกที่จะตอบด้วยคำตอบนี้ กรณีที่ดีที่สุดคือผู้สัมภาษณ์มักจะขอให้คุณอธิบายเพิ่มเติม ส่วนกรณีที่เลวร้ายที่สุด (และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นสูงมาก) คืออะไร? พวกเขาจะไม่ประทับใจในคำตอบนี้เพราะพวกเขาเคยได้ยินจากผู้สมัครงานคนอื่น ๆ มาหลายครั้งแล้ว
ดังนั้นคำตอบที่เหมาะสมกว่าอาจจะเป็น “ดิฉันไม่รังเกียจที่จะเป็นผู้นำโครงการนี้” และ “ดิฉันสามารถทำได้ค่ะ เพียงแค่คุณให้คำแนะนำเล็กน้อยแก่ดิฉัน” ตามด้วยการอธิบายตัวอย่างโครงการที่คุณเคยทำสำเร็จมาก่อน
2. “หวังว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า จะได้อยู่ในตำแหน่งเดียวกับคุณ”
อย่าคิดว่าคนที่คุณคิดว่าจะเป็นเจ้านายของคุณในอนาคตจะพอใจกับคำตอบนี้ เพราะพวกเขามักจะคิดว่าคำตอบนี้ดูเกียจคร้านและไร้ความคิด
ให้เริ่มต้นด้วยการพูดถึงตำแหน่งที่คุณกำลังสัมภาษณ์และเน้นไปที่การอธิบายทักษะของคุณที่จำเป็นและสำคัญสำหรับตำแหน่งงานนั้น ๆ นอกจากนี้ควรพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับความก้าวหน้าและการมีส่วนร่วมกับบริษัทเท่าที่ทักษะและความสามารถของคุณจะทำได้ การทำเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าคุณไม่เพียงแต่สนใจความก้าวหน้าในอาชีพเท่านั้น แต่ยังทุ่มเทเพื่อช่วยให้บริษัทเติบโตในระยะยาวอีกด้วย
3. “ไม่ชอบเจ้านายคนก่อน”
อย่าพูดหรือนินทาอดีตเจ้านาย ไม่ว่าเขาจะแย่แค่ไหนก็ตาม
เมื่อถูกถามว่าทำไมคุณถึงออกจากงานเก่า คุณควรยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่างานไม่เหมาะกับคุณ ความซื่อตรงเป็นคุณสมบัติที่มีค่าก็จริง แต่จงระวังคำพูดของคุณให้ดี
คุณสามารถพูดได้ว่า คุณต้องการเปลี่ยนสายอาชีพ หรือคุณกำลังมองหาบางสิ่งบางอย่างที่ท้าทายมากกว่านี้ ทั้งนี้คุณควรพูดถึงสิ่งที่คุณได้เรียนรู้มาจากที่ทำงานเก่าอย่างน้อยหนึ่งอย่าง จะช่วยเพิ่มโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการสัมภาษณ์งานในตำแหน่งที่คุณต้องการสมัคร
หากคุณถูกไล่ออก ให้อธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่กล่าวโทษหรือตำหนิใคร และพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่คุณสามารถทำได้และแตกต่างจากคนอื่นแทน สิ่งนี้จะแสดงให้เห็นถึงความตระหนักรู้ในตนเองและการเติบโตขึ้นจากประสบการณ์เชิงลบ
4. “จุดอ่อนที่สุดคือการเป็นคนที่ชอบความสมบูรณ์แบบ”
บนโลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ดังนั้นคำตอบนี้จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งในการพูดว่า “ฉันแย่เกินกว่าจะยอมรับจุดอ่อนตัวเอง”
นี่เป็นคำถามเชิงพฤติกรรมที่นายจ้างส่วนใหญ่ค่อนข้างให้ความสำคัญ ดังนั้นเตรียมคำตอบให้ดีกว่านี้ อาจจะลองขอคำแนะนำหรือปรึกษากับอดีตเจ้านายและเพื่อนร่วมงานที่คุณสนิทสนมและไว้วางใจ เพื่อขอคำติชมจากพวกเขา
คุณอาจจะลิสต์ทักษะสำคัญและจำเป็นสำหรับตำแหน่งที่คุณต้องการจะสมัครและส่งให้พวกเขาจัดอันดับทักษะจากดีที่สุดไปหาแย่ที่สุดตามที่พวกเขาคิดว่าคุณมี
สุดท้ายนี้ จงยอมรับในสิ่งที่คุณต้องปรับปรุง แล้วอธิบายให้ผู้สัมภาษณ์รู้ว่าคุณวางแผนที่จะแก้ไขปรับปรุงจุดอ่อนเหล่านั้นอย่างไร
5. “ช่วยอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทได้หรือไม่“
เชื่อหรือไม่ว่า แม้แต่ผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดก็มักจะถามคำถามนี้ด้วยหลาย ๆ วิธี เช่น “เป้าหมายหลักของบริษัทคืออะไร” หรือ “บริษัทของคุณ/คุณทำอะไร”
นายจ้างใช้เวลาในการอ่านประวัติย่อของคุณและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติย่อของคุณ ดังนั้นคุณก็ควรจะทำเช่นเดียวกัน โดยการใช้เวลาค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติของบริษัท
คุณสามารถขอให้พวกเขาอธิบายเกี่ยวกับคำถามที่เจาะจงมาก ๆ ได้ เช่น “เป้าหมายรายเดือนของแผนกคืออะไร” เป็นต้น แต่การสัมภาษณ์โดยที่คุณมีข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทน้อยมาก สำหรับบริษัทแล้ว ถือว่าเป็นการดูถูกและอาจสร้างความไม่ประทับใจได้
6. “สวัสดิการและโบนัสของบริษัทเป็นอย่างไร“
การหางานทำโดยที่ไม่รู้ว่าผลประโยชน์ที่พนักงานจะได้รับนั้นเป็นอย่างไรเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดนัก แต่คุณไม่ควรพูดถึงเรื่องนี้ตั้งแต่การสัมภาษณ์ เพราะจะทำให้ผู้สัมภาษณ์ตั้งคำถามถึงเจตนาที่แท้จริงของคุณในการมาสมัครงานที่นี่
โปรดจำไว้ว่า การสัมภาษณ์ครั้งที่สองหรือสามมีขึ้นเพื่อพิจารณาว่าคุณเหมาะสมที่จะทำงานในตำแหน่งนี้หรือไม่ ดังนั้นหากคุณยังไม่ผ่านการสัมภาษณ์รอบแรก หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการและผลประโยชน์จึงไม่ควรพูดถึง
หากคุณต้องการเพิ่มโอกาสในการได้รับการพยักหน้าว่าจ้างจากนายจ้าง ก่อนการสัมภาษณ์ควรเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมและลองปฏิบัติทั้ง 6 ข้อนี้ จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับผู้สัมภาษณ์และช่วยเพิ่มโอกาสที่จะได้งานให้กับตนเองได้อีกด้วย
อ้างอิง: J.T. O’Donnell
https://www.facebook.com/1430480313652629/posts/4448526878514609/
หมายเหตุ: เป็นการแปลและเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
แปลบทความโดย: ปิ่นแก้ว ศิริวัฒน์
กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Pexels