รวย VS มั่งคั่ง ต่างกันอย่างไร?
เมื่อเรานึกถึงใครบางคนที่รวย / มั่งคั่ง เราอาจคิดว่ามันเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ ด้วยเหตุผลบางประการ คำว่าร่ำรวยและมั่งคั่งมักใช้อธิบายสิ่งเดียวกัน แต่ในแบบที่ไม่ถูกต้อง
ทั้งสองคำอาจดูเหมือนคำพ้องความหมาย แต่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง มันยากที่จะมองเห็นความแตกต่าง แต่รวยและมั่งคั่งไม่ใช่สิ่งเดียวกัน
การเป็นคนรวยหมายความว่าอย่างไร?
การเป็นคนรวยคือการมีเงินหรือรายได้มากมาย ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินสดที่คุณมีในบัญชีธนาคารของคุณ แต่เพียงเพราะคุณรวยไม่ได้หมายความว่าคุณจะมั่งคั่ง
ในความเป็นจริงการเป็นคนรวยมักหมายถึงการที่คุณใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังสามารถหมายความถึงว่าคุณมีหนี้จำนวนมาก ไม่สำคัญว่าคุณจะมีเงินเท่าไหร่ หากค่าใช้จ่ายของคุณสูงกว่ารายได้ การเป็นหนี้ไม่ใช่สิ่งที่น่าปรารถนาอย่างแน่นอน!

ภาพถ่ายโดย cottonbro จาก Pexels
คนที่ร่ำรวยอาจขับรถหรูหรืออาศัยอยู่ในบ้านที่น่าตื่นตาตื่นใจในย่านที่ดีที่สุดของเมือง แต่ก็ต้องเสียค่าใช้จ่าย หากคุณหาเงินได้ 6 ล้านบาทต่อปี แต่ใช้จ่าย 7 ล้านต่อปี คุณอาจจะดูเหมือนร่ำรวย แต่จริง ๆ แล้วคุณกำลังจะจนต่างหากล่ะ
ตามความเป็นจริงคนดังหลายคนต้องจนกรอบกันไปก็เพราะไลฟ์สไตล์ที่ร่ำรวยของพวกเขา
การเป็นคนมั่งคั่งหมายความว่าอย่างไร?
การเป็นคนมั่งคั่งไม่ใช่แค่การมีเงินเพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของคุณเท่านั้น แต่หมายรวมถึงคุณยังไม่ต้องทำงานก็ได้ถ้าไม่จำเป็นอีกด้วย มันเกี่ยวกับการสะสมทรัพย์สินและให้มันสร้างรายได้ให้กับคุณ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือเป็นคนที่มีความมั่งคั่งสุทธิสูงมาก
คนที่มั่งคั่งไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของอุปกรณ์หรือรถยนต์รุ่นล่าสุดหรือจัดงานปาร์ตี้ฟุ่มเฟือย สิ่งที่พวกเขามีคือทรัพย์สินมากมาย เช่น อสังหาริมทรัพย์ การลงทุน และเงินสด ตัวอย่างเช่น หากค่าใช้จ่ายรายเดือนของคุณคือ 150,000 บาทต่อเดือนและคุณมีเงินออม 900,000 บาทคุณก็จะมีความมั่งคั่งประมาณหกเดือน หากคุณลงทุน 900,000 บาทนั้นและคุณมีรายได้จากการลงทุน 150,000 ใน 1 เดือน นั่นคือคุณมั่งคั่งแล้ว
คนที่มั่งคั่งที่สุดในอเมริกามักเป็นเจ้าของธุรกิจ
Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon มีทรัพย์สินมูลค่า 4 ล้านล้านบาท
ขณะที่ Warren Buffett มีทรัพย์สินมูลค่า 2 ล้านล้านบาท
Buffett ถือเป็นมหาเศรษฐีที่ประหยัด แม้เขาจะร่ำรวยมหาศาล แต่เขาก็ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านเนบราสก้าที่เขาซื้อเมื่อปี 2501 ด้วยราคา 980,000 บาท และในขณะที่ปี 2514 เขาซื้อบ้านพักตากอากาศริมชายหาดในแคลิฟอร์เนียในราคา 4.6 ล้านบาท และในตอนท้ายเขาก็ได้ขายมันไปในราคา 2 ร้อยกว่าล้านบาท

ภาพถ่ายโดย cottonbro จาก Pexels
ความแตกต่างระหว่างความร่ำรวยและความมั่งคั่ง
มันมีความแตกต่างระหว่างความร่ำรวยและความมั่งคั่งมากกว่าเงินที่คุณมีอยู่ในบัญชีธนาคารของคุณ ในความเป็นจริงแล้ว มีความเป็นไปได้ที่คนที่ทำเงินได้น้อยกว่าคนรวยมั่งคั่งมากกว่าคนรวยที่มีรถหรูและสวมใส่แฟชั่นทันสมัย
นั่นเป็นเพราะคนรวยใช้เงินเป็นจำนวนมาก แต่คนมั่งคั่ง ประหยัดและนำเงินส่วนใหญ่ไปลงทุน คนที่มั่งคั่งอาจมีเงินมากมาย แต่พวกเขาไม่ได้ใช้จ่ายทั้งหมดในคราวเดียว และพวกเขาจะไม่ใช้หนี้อย่างแน่นอนเว้นแต่จะมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน เช่น การลงทุนในบ้าน
คนที่มั่งคั่งจะประหยัดเงินให้มากที่สุดและนำไปลงทุนในทรัพย์สิน นั่นอาจหมายถึงการซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือลงทุนในตลาดหุ้น ไม่ว่าพวกเขาจะลงทุนอย่างไร คนที่มั่งคั่งรู้ดีว่าในการที่จะเลี้ยงความมั่งคั่งของพวกเขาให้เติบโต พวกเขาจำเป็นต้องเปลี่ยนเงินสดให้เป็นสินทรัพย์

ภาพถ่ายโดย Deva Darshan จาก Pexels
จะมั่งคั่งได้อย่างไร?
หากคุณต้องการความมั่งคั่ง มีบางสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อเริ่มต้นมัน อย่าสนใจแค่ว่าเช็คเงินเดือนของคุณมันมากแค่ไหน ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อขจัดหนี้และคิดให้ถูกต้องในการสะสมความมั่งคั่ง
1. ประหยัด 10 – 15% ของเช็คเงินเดือนของคุณทุกเดือน
ขั้นตอนแรกในการร่ำรวย คือ การประหยัดเงินส่วนหนึ่งของคุณทุกเดือน ไม่ว่าคุณจะทำเงินได้มากหรือน้อยเพียงใด ให้สำรองอย่างน้อย 10% ถึง 15% ทุกเดือน
คุณสามารถตั้งค่าบัญชีธนาคารของคุณเพื่อให้เงินส่วนหนึ่งของคุณถูกฝากเข้าในเงินออมของคุณโดยตรง นี่เป็นวิธีง่าย ๆ ในการประหยัดโดยไม่จำเป็นต้องคิดเลยด้วยซ้ำ หากคุณมีปัญหาในการประหยัด ลองเล่นชาเลนจ์ในการออม หรือดูรายรับรายจ่ายของคุณและหาว่าคุณสามารถกำจัดค่าใช้จ่ายไหนได้บ้าง
2. ชำระหนี้ โดยเริ่มจากหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงก่อน
ถ้าคุณอยากร่ำรวย คุณก็ต้องปลอดหนี้ มุ่งเน้นไปที่การชำระหนี้ของคุณโดยเริ่มจากเงินกู้ดอกเบี้ยสูง เช่น หนี้บัตรเครดิต
ดูว่าควรรีไฟแนนซ์เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาหรือจำนองเพื่อให้ได้อัตราดอกเบี้ยที่ดีขึ้นหรือไม่ คุณยังสามารถตรวจสอบสิ่งต่าง ๆ เช่น การละเว้นเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา
ทำให้การปลอดหนี้เป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งของคุณ!
3. ลงทุนให้เร็วและมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
หนึ่งในวิธีที่รวดเร็วที่สุดในการเพิ่มพูนความมั่งคั่งของคุณคือการลงทุน แน่นอนว่าการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงในตัวเอง แต่ก็มีทางเลือกมากมาย คุณสามารถใช้บริการออนไลน์ เช่น ผู้ช่วยเรื่องการลงทุนแบบออนไลน์ (Robo advisor) รับคำแนะนำการลงทุนจากโบรกเกอร์ หรือลงทุนในสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ตลาดหุ้น เช่น ทรัพย์สินที่จับต้องได้
ลองทำสักอย่างก่อน! คุณยังสามารถใส่เงินของคุณในบัญชีออมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงเพื่อรับดอกเบี้ยจนกว่าคุณจะพร้อมที่จะลงทุน
ให้เงินของคุณทำงานให้คุณ

ภาพถ่ายโดย Anna Nekrashevich จาก Pexels
4. อย่าทุ่มกับค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
กุญแจสำคัญในการเพิ่มพูนความมั่งคั่ง คือ การประหยัดและใช้เท่าที่คุณมี ในความเป็นจริง คุณควรใช้ให้น้อยกว่าเดิม เพื่อที่คุณจะได้นำส่วนที่เหลือไปลงทุนเพื่อหารายได้พิเศษและเงินออม
นั่นหมายถึงการต่อต้านความอยากซื้อกางเกงยีนส์เก๋ ๆ หรือซื้อโทรศัพท์รุ่นล่าสุด เมื่อรุ่นเก่ายังใช้งานได้ ฉลาดในเรื่องการใช้เงิน และซื้อเฉพาะสิ่งที่คุณต้องการเท่านั้น และของนั้นก็ต้องมีประโยชน์อีกด้วย
5. คิดถึงเป้าหมายทางการเงินและทรัพย์สินในระยะยาวของคุณ
การเพิ่มพูนความมั่งคั่งเป็นความมุ่งมั่นในระยะยาว ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน คุณอาจต้องใช้เวลาหลายปีในการสร้างความมั่งคั่งและมันก็ไม่เป็นไรหรอก เมื่อถึงเวลาที่ยากลำบาก ให้นึกถึงเป้าหมายระยะยาวของคุณและเหตุผลที่คุณเลือกที่จะพยายามที่จะมั่งคั่งตั้งแต่แรก

ภาพถ่ายโดย John Guccione www.advergroup.com จาก Pexels
ความมั่งคั่งเป็นมายด์เซ็ต
ความมั่งคั่งไม่ได้เริ่มต้นด้วยกระเป๋าเงินขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเงินสด ความมั่งคั่งเริ่มต้นด้วยมายด์เซ็ตที่ถูกต้อง จดบันทึกรายได้ มุ่งเน้นไปที่การปลอดหนี้ และลงทุนตั้งแต่เนิ่น ๆ และลงทุนให้บ่อยครั้ง
หากคุณอยากมั่งคั่ง คุณต้องคิดถึงเป้าหมายระยะยาวของคุณเสมอ
คุณอยากเกษียณก่อนกำหนดไหม?
เป็นเจ้าของบ้านแค่ไม่กี่หลัง?
ท่องเที่ยว?
เมื่อคิดถึงความมั่งคั่งอย่าเพิ่งมุ่งเน้นไปที่รายได้ของคุณ แต่มุ่งเน้นไปที่การสร้างการลงทุนและทรัพย์สินของคุณเพื่อให้คุณอยู่ได้ชั่วอายุคน
แปลบทความจาก Rich VS Wealthy: Key Differences Between The Two By Moriah Costa (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
หมายเหตุ : เป็นการแปลและเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
แปลบทความโดย: กุลนิภา บุตรลุน
กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Pexels