นักลงทุนมือใหม่หรือนักลงทุนอีกหลายคนอาจจะกำลังสงสัยว่าทำไมการทำโครงการบนที่ดินที่ตนเองเป็นเจ้าของจะต้องไปขออนุญาตก่อสร้างให้ยุ่งยาก
อันดับแรกต้องทำความเข้าก่อนว่าการขออนุญาตก่อสร้างเป็นหนึ่งในกระบวนการที่ต้องทำเป็นอย่างแรก โดยจะมีการส่งมอบแผนงานให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าการก่อสร้างนี้มีความปลอดภัยทั้งกับตัวโครงการเองและชุมชนโดยรอบ หรือเป็นไปตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 หรือไม่ ซึ่งจุดประสงค์ก็เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของชุมชนนั่นเอง หากโครงการไม่ได้รับการอนุญาตก่อสร้างอย่างถูกต้องเมื่อถูกตรวจสอบย้อนหลังผู้เป็นเจ้าของจะถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย
เตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนขออนุญาต
การขออนุญาตก่อสร้างนั้นจะต้องเตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนจะนำไปมอบแก่เจ้าหน้าที่ จำไว้ว่าถ้าเอกสารครบถ้วนและถูกต้องโครงการนั้นก็มีโอกาสที่จะได้ก่อสร้างเร็วขึ้น ซึ่งเอกสารที่ต้องเตรียมมีดังนี้
1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขออนุญาตและเจ้าของที่ดิน อย่างละ 1 ชุด ในกรณีที่ผู้ขออนุญาตและเจ้าของที่ดินไม่ใช่คนเดียวกัน
2. แบบก่อสร้างอาคาร แผนผัง และรายการประกอบแบบของอาคารที่จะก่อสร้าง อย่างละ 5 ชุด โดยต้องเป็นแบบก่อสร้างที่มีวิศวกร และสถาปนิกเป็นผู้เซ็นรับรองแบบครบถ้วน
3. หนังสือรับรองผู้ประกอบวิชาชีพของสถาปนิกผู้ออกแบบบ้าน และวิศวกรผู้ควบคุมการก่อสร้าง พร้อมสำเนาบัตรประจำตัว
4. สำเนาโฉนดที่ดินที่จะทำการก่อสร้าง จำนวน 1 ชุด หรือเอกสารสิทธิ์อื่น ๆ ที่แสดงถึงการครอบครองที่ดิน ถ้าเป็นการเช่าที่ดินต้องมีหนังสือยินยอมให้ก่อสร้างจากเจ้าของที่ดินด้วย
หมายเหตุ: หากเป็นการขออนุญาตในนามนิติบุคคลจะต้องมีสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท ถ้ามอบหมายให้บุคคลอื่นดำเนินการแทนต้องมีหนังสือมอบอำนาจประกอบด้วย
กรณีที่การก่อสร้างนี้ใช้ผนังร่วมกันกับบ้านหลังอื่น เช่น บ้านทาวน์เฮาส์ ต้องมีหนังสือยินยอมให้ปลูกอาคารชิดผนังจากเจ้าของบ้านที่ใช้ผนังร่วมกันมาด้วย หรือถ้าเป็นการปลูกบ้านชิดเขตที่ดินข้างเคียงก็ต้องหนังสือยินยอมให้ปลูกสร้างอาคารชิดเขตที่ดินด้วย
รู้ลึกถึงขั้นตอนการขออนุญาตก่อสร้าง
ขั้นตอนแรก ผู้ขออนุญาตก่อสร้างต้องไปติดต่อกับสำนักงานเขตที่ดูแลพื้นที่เขตก่อสร้าง ถ้าอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานเทศบาล
ขั้นตอนที่สอง เขียนคำร้องพร้อมแนบหลักฐานให้ครบถ้วน เมื่อเจ้าพนักงานตรวจสอบแบบการก่อสร้างว่ามีความถูกต้องปลอดภัยตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 แล้ว เจ้าพนักงานจะให้หนังสืออนุญาตก่อสร้างกับผู้ขอ
ขั้นตอนที่สาม เมื่อได้รับหนังสืออนุญาตจากเจ้าพนักงานแล้วสามารถทำการก่อสร้างได้ทันที
กรณีที่ไม่ผ่านการตรวจสอบในครั้งแรก เจ้าพนักงานจะเป็นผู้แจ้งว่าแบบแปลนการก่อสร้างที่ได้ยื่นขออนุญาตนั้นมีความบกพร่องในเรื่องใดและผู้ขออนุญาตต้องไปจัดการแก้ไขมาให้ถูกต้องแล้วจึงนำมายื่นเรื่องเพื่อขออนุญาตอีกครั้ง
การก่อสร้างแบบไหนที่ไม่ต้องขออนุญาต
การก่อสร้างจะต้องทำการขออนุญาตทั้งสิ้น แต่จะมีการก่อสร้างบางประเภทที่ได้รับการยกเว้น ได้แก่ การต่อเติมบ้านภายในพื้นที่ของตนเอง แบ่งออกไป 5 กรณี ได้แก่
1. การเพิ่มหรือลดเนื้อที่ของพื้นบ้านในชั้นใดชั้นหนึ่งรวมกันไม่เกิน 5 ตารางเมตร โดยที่ไม่มีการเพิ่มหรือลดจำนวนเสาหรือคาน
2. การเพิ่มหรือลดเนื้อที่ของหลังคารวมกันไม่เกิน 5 ตารางเมตร โดยที่ไม่มีการเพิ่มหรือลดจำนวนเสาหรือคาน
3. การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของอาคารด้วยวัสดุที่มีขนาด จำนวน และชนิดของวัสดุที่เหมือนของเดิม
4. การเปลี่ยนแปลงส่วนต่อเติมที่ไม่ได้มีผลกระทบต่อโครงสร้างของอาคาร โดยใช้วัสดุชนิดเดียวกับของเดิม หรือวัสดุอื่น ๆ ที่แตกต่างออกไป และการเปลี่ยนแปลงนั้นจะต้องไม่สร้างน้ำหนักเพิ่มเติมให้กับโครงสร้างเกิน 10%
5. การเปลี่ยนแปลง ต่อเติม เพิ่ม ลด เนื้อที่ส่วนใด ๆ ก็ตามในบ้านที่ไม่ใช่ส่วนที่เป็นโครงสร้างอาคาร และไม่เพิ่มน้ำหนักให้แก่โครงสร้างเกิน 10% ของโครงสร้างเดิม
จะเห็นได้ว่าการขออนุญาตการก่อสร้างนั้นมีความสำคัญและต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนการก่อสร้างเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของกฎหมายและเพื่อความปลอดภัยทั้งต่อโครงการเองและชุมชนโดยรอบด้วย
อ้างอิง:
การขออนุญาตก่อสร้างคืออะไร จำเป็นต้องขอหรือไม่ จาก https://bit.ly/3HkTv4n
การขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ต้องเตรียมหลักฐาน จาก http://www.dongkon.go.th/upload/plan/29051703528.pdf
ขั้นตอนการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร จาก https://bit.ly/3ujLWXT
หมายเหตุ: เป็นการเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
เรียบเรียงโดย: ศุภธิดา รัสพันธ์
คอนเทนต์ครีเอเตอร์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Freepik