เป็นเวลากว่า 5 ปีที่มีการศึกษานิสัยและพฤติกรรมของเศรษฐีร้อยล้านและเศรษฐีพันล้านทั้งหมด 177 คน โธมัส ซี. คอร์ลีย์ (Thomas C. Corley) นักเขียนชาวอเมริกัน ได้สรุปไว้ว่า “หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้พวกเขาเปลี่ยนจากคนธรรมดากลายเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จที่มีทรัพย์สินมูลค่าหลายร้อยล้านหรือหลายพันล้านดอลลาร์ได้ นั่นคือ “นิสัยมั่งคั่ง” นิสัยมั่งคั่งนี้เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นความร่ำรวย ความยากจน ความสุข ความเศร้า ความกดดัน ความสัมพันธ์ที่ดีและไม่ดี รวมทั้งสุขภาพของพวกเขา…”
ที่สำคัญที่สุดพฤติกรรมและนิสัยเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงและฝึกฝนให้เกิดขึ้นได้ นี่คือ “13 นิสัยมั่งคั่ง” ของมหาเศรษฐีทั้งหลายที่คุณสามารถปฏิบัติตามได้ตั้งแต่วันนี้ แล้วคุณจะเป็นเศรษฐีพันล้านเหมือนพวกเขาได้ไม่ยาก

Photo by @tirachardz from freepik
1. พยายามตื่นแต่เช้า
จากการศึกษาของคอร์ลีย์พบว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งของมหาเศรษฐีที่สร้างตัวเองขึ้นมาด้วยมือเปล่าจะตื่นแต่เช้าก่อนเวลาทำงานอย่างน้อย 3 ชั่วโมง โดยตื่นนอนตอนเช้าเวลาตีห้าและทำภารกิจส่วนตัวที่สำคัญที่สุดของวันให้เสร็จสิ้นอย่างน้อย 3 อย่าง การทำเช่นนี้จะทำให้คุณสามารถควบคุมชีวิตของตัวเองได้ ทำให้คุณมีเวลาเตรียมตัวสำหรับการทำงานมากขึ้น และรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดฝันได้ดี
การเตรียมพร้อมที่ดีก่อนที่จะทำอะไรก็ตาม ทำให้คุณไม่เฉื่อยชาและสามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการทำงานได้ดี ทังนี้ การตื่นเช้ายังแสดงให้เห็นถึงจิตใจที่เข้มแข็งและรอบคอบเพื่อเตรียมพร้อมวางแผนการใช้ชีวิตในแต่ละวันอีกด้วย

Photo by Karolina Grabowska from Pexels
2. ใช้เวลาคิด 15-30 นาทีต่อวัน
“ความคิด คือ กุญแจไปสู่ความสำเร็จของพวกเขา” คอร์ลีย์พบว่า มหาเศรษฐีทั้งหลายมักจะนั่งคิดคนเดียวทุก ๆ เช้าเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที พวกเขามักจะคิดถึงสิ่งต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ การเงิน สุขภาพ และการกุศล และพวกเขามักถามตัวเองบ่อย ๆ ด้วย 4 คำถาม ดังนี้
– ฉันจะหาเงินเพิ่มได้อย่างไร?
– งานทำให้ฉันมีความสุขหรือไม่?
– เวลาเรียนรู้ฝึกฝนของฉันเพียงพอหรือไม่?
– ฉันยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมการกุศลใด ๆ ได้อีก?

Photo by Andrea Piacquadio from Pexels
แต่คำถามที่สำคัญที่สุด 2 ข้อที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จมากขึ้น นั่นคือ “งานที่ทำให้ฉันมีความสุขหรือไม่? ” ดูว่างานที่คุณกำลังทำอยู่นั้นเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นในสังคมหรือขัดต่อศีลธรรมหรือไม่ เพราะว่างานที่สร้างประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นในสังคมและงานที่ไม่ขัดต่อศีลธรรมคืองานที่จะมอบความสุขที่แท้จริงให้กับตัวคุณเอง
และคำถามที่ว่า “ฉันสามารถเข้าร่วมกิจกรรมการกุศลใด ๆ ได้บ้าง?” คือกุญแจสำคัญที่ทำให้พวกเขามั่งคั่งยิ่งกว่าเดิมเพราะพวกเขาเข้าใจรากฐานของความมั่งคั่งเป็นอย่างดี ซึ่งก็คือ “การให้” นั่นเอง ดังนั้นจงใช้ความมั่งคั่งของตนเองตอบสนองต่อความสุขส่วนตัว

Photo by Tima Miroshnichenko from Pexels
3. อ่านหนังสือบ่อย ๆ
คนรวยยิ่งชอบอ่านหนังสือเพื่อการเรียนรู้ ไม่ใช่เพื่อความบันเทิง คอร์ลีย์เขียนไว้ว่า “88% ของเศรษฐีอ่านหนังสืออย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน” ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่ในหนังสือเป็นการเรียนรู้และการฝึกฝนตนเอง ส่วนใหญ่ไม่ใช่หนังสือที่อ่านเพื่อความบันเทิง เศรษฐีทั้งหลายมักอ่านหนังสือเพื่อเก็บเกี่ยวความรู้มากกว่า”
4. พูดจาสุภาพ
มหาเศรษฐีที่เริ่มต้นธุรกิจด้วยสองมือของตัวเองมักยึดมั่นในหลักการและมารยาททางสังคม มารยาทนี้รวมไปถึงการส่งจดหมายขอบคุณ การจดจำวันสำคัญ (เช่น วันครบรอบแต่งงาน วันเกิด เป็นต้น) มารยาทบนโต๊ะอาหาร และการแต่งตัวให้ถูกกาลเทศะ การเข้าใจมารยาทหรือพิธีการต่าง ๆ จะทำให้ปฏิบัติตัวได้ถูกคน ถูกที่ ถูกเวลา และถูกกาลเทศะ คนที่ไม่เข้าใจในมารยาทและพิธีการก็เหมือนกับคนป่าเถื่อน หากคุณอยากประสบความสำเร็จก็ต้องยึดหลักการเหล่านี้ด้วย

Photo by Liza Summer from Pexels
5. ทำตามเป้าหมายของตัวเอง
คอร์ลีย์กล่าวไว้ว่า “การทำตามความฝันและเป้าหมายของตัวเองจะทำให้คุณรู้สึกมีความสุขในระยะยาว ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นความมั่งคั่งได้ในที่สุด” มีหลายคนที่ทำผิดพลาดโดยการทำตามความฝันของคนอื่น (เช่น พ่อแม่ สภาพสังคม เป็นต้น)
คนรวยไม่หยุดที่จะทำตามเป้าหมายของตัวเองให้สำเร็จ พวกเขาจะอดทนและกระตือรือร้นที่จะทำตามความฝันและเป้าหมายนั้น นอกจากนี้การกำหนดความฝันให้กับตัวเองและกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนจะทำให้เรามีพลังมุ่งไปในทิศทางเดียว ไม่ใช่มุ่งพลังไปในทิศทางที่สะเปะสะปะ

Photo by Maksim Goncharenok from Pexels
6. พยายามรักษาสุขภาพ
76 % ของคนรวยมักจะออกกำลังกายกลางแจ้ง 30 นาทีขึ้นไป การออกกำลังกายกลางแจ้งมักรวมไปถึงการจ็อกกิง การวิ่งระยะสั้น การวิ่งเร็ว หรือการปั่นจักรยาน เป็นต้น
คอร์ลีย์ยังวิเคราะห์อีกว่า “การออกกำลังกายกลางแจ้งไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อสมอง ช่วยเพิ่มเซลล์สมอง การออกกำลังกายยังสามารถเพิ่มกลูโคสในร่างกาย ซึ่งกลูโคสนี้เป็นพลังงานที่สำคัญของสมอง ยิ่งสมองได้รับสารอาหารมากเท่าไร สมองก็จะพัฒนามากขึ้นเท่านั้น และคุณก็จะฉลาดขึ้นอีกด้วย”

Photo by Liza Summer from Pexels
7. มีแหล่งรายได้มากมาย
คอร์ลีย์กล่าวว่า “มหาเศรษฐีที่ไม่มีทรัพย์สินและสร้างตัวเองขึ้นมาด้วยสองมือมักจะไม่คำนึงถึงแหล่งรายได้ พวกเขามีลู่ทางมากมายที่จะหารายได้ให้กับตนเอง ในงานวิจัยของผม 65% ก่อนที่พวกเขาจะเป็นเศรษฐี พวกเขามีแหล่งรายได้อย่างน้อย 3 แหล่ง ซึ่งรายได้เสริมของพวกเขาส่วนใหญ่มาจากค่าเช่าที่ดิน การลงทุนเล่นหุ้น งานพิเศษ ค่าลิขสิทธิ์ เป็นต้น
จริง ๆ แล้วสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจด้วยมือเปล่า การมีทรัพย์สินเพียงเล็กน้อยในการลงทุนทางธุรกิจก็นับเป็นการเสี่ยงโชคไม่น้อย เพราะไม่ว่าจะคิดคำนวณมาดีแค่ไหนก็ยังมีปัจจัยที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้นพวกมหาเศรษฐีจึงคิดทุกวิถีทางที่จะมีรายได้อื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น ถ้าอยากหัวเราะทีหลังแต่ดังกว่าและอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไม่สิ้นหวัง แน่นอนว่าอย่าพึ่งพารายได้เพียงแหล่งเดียว อยากประสบความสำเร็จก็ต้องคิดวิธีหาเงินที่หลากหลายเพื่อเพิ่มทรัพย์สินให้กับตนเอง

Photo by cottonbro from Pexels
8. อยู่ใกล้ ๆ คนที่ประสบความสำเร็จ
มีประโยคหนึ่งกล่าวไว้ว่า “อยู่หมึกดำ ย่อมมืดมิด อยู่ใกล้โคมไฟ ย่อมสว่างไสว” คนที่ซื่อสัตย์ มีศักดิ์ศรี และมีจิตใจที่เข้มแข็ง จะมีพลังบวกที่ทำให้คนรอบข้างพัฒนาตนเอง มีความคิดเชิงบวก มองโลกในแง่ดี และมีความกระตือรือร้นตามไปด้วย การอยู่ใกล้ ๆ กับคนที่มีเป้าหมายชัดเจน คิดบวก และมองโลกในแง่ดี จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้แน่นอน และนั่นก็คือ “รสนิยม” ที่คนรวยชื่นชอบที่จะทำ
9. มีครูของตัวเอง
คอร์ลีย์เขียนไว้ว่า “การค้นพบกูรูของตัวเองจะช่วยสร้างความมั่งคั่งให้คุณได้อย่างรวดเร็ว” ผู้เชี่ยวชาญที่ประสบความสำเร็จไม่ได้มีอิทธิพลเชิงบวกต่อชีวิตของคุณเท่านั้น แต่พวกเขาจะช่วยชี้แนะว่าคุณควรทำอะไรหรือไม่ควรทำอะไร พวกเขาจะแบ่งปันประสบการณ์ความสำเร็จที่มีประโยชน์ให้กับคุณ ประสบการณ์นี้อาจเป็นความสำเร็จหรือความล้มเหลวของพวกเขาหรือเจ้านายของพวกเขาก็ได้ การมีครูที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงและความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นบนเส้นทางที่จะไปสู่ความสำเร็จของคุณ

Photo by cottonbro from Pexels
10. ไม่จำเป็นต้องโดดเด่น
คนที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่คนที่โดดเด่น แต่พวกเขารู้ว่าจะสร้างอิทธิพลและดึงดูดคนให้เข้าหาพวกเขาได้อย่างไร
มีการเปรียบเทียบที่น่าสนใจดังนี้ ผู้ที่โดดเด่นมักยากที่จะประสบความสำเร็จ เหมือนกับต้นไม้สูงในป่าที่อาจโดนลมโค่นทำลายได้ง่าย คนที่ประสบความสำเร็จก็คือคนทั่วไป แต่พวกเขาแค่รู้จักสร้างตัวตนและเอกลักษณ์ของตนเองขึ้นมาเท่านั้น สิ่งที่ดึงดูดคนให้เข้าหามากที่สุดคือ บุคลิกภาพ ความมีเมตตากรุณา และการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่น

Photo by Fox from Pexels
11. มีทัศนคติเชิงบวก
คนส่วนใหญ่อาจเคยรู้มาว่าความคิดเชิงบวกสามารถนำไปสู่ความสำเร็จและเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะฝึกคิดเชิงบวกได้อย่างสม่ำเสมอและถูกต้อง ประโยคที่กล่าวว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากความคิด ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ด้วยความคิด” ซึ่งหมายถึง “การแสดงออก บุคลิก และจิตใจของมนุษย์เกิดจากความคิด” ดังนั้นการคิดบวกหรือทัศนคติเชิงบวกทำให้ สภาพแวดล้อมโดยรอบเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น มีเมตตาต่อกันมากขึ้น แค่เพียงคุณมีทัศนคติเชิงบวกคุณก็จะประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดายและยั่งยืน

Photo by Andrea Piacquadio from Pexels
12. ช่วยให้คนอื่นประสบความสำเร็จ
“การช่วยเหลือคนอื่นทำตามเป้าหมายและความฝันของพวกเขาได้ ก็ทำให้คุณประสบความสำเร็จและยังทำให้ตัวคุณเองได้รับประโยชน์ได้ในเวลาเดียวกัน หากไม่มีคนที่ประสบความสำเร็จคนอื่น ๆ ความสำเร็จนั้นก็ยากที่จะนิยามได้ ถ้าอยากประสบความสำเร็จ วิธีที่ดีที่สุดคือการช่วยเหลือคนอื่นให้ประสบความสำเร็จด้วย”
ทั้งนี้ คุณไม่ควรช่วยเหลือทุกคน คุณควรช่วยเหลือเฉพาะคนที่มองโลกในแง่ดี มีเป้าหมายที่ชัดเจน คิดบวก ทำตามความฝัน จงหลีกเลี่ยงการเสียเวลาที่ไร้ประโยชน์ไปกับคนที่ขาดความตั้งใจและขาดพลัง

Photo by cottonbro from Pexels
13. รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
ในฐานะที่เป็นมหาเศรษฐีหรือเป็นเจ้าของธุรกิจ พวกเขาต้องเป็นหัวหน้าคน เป็นเจ้านายคน จึงจำเป็นต้องมีลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน และลูกค้าอยู่ข้างกาย ถ้าพวกเขาเป็นพ่อคน พวกเขาก็ต้องมีภรรยาและลูก ๆ ดังนั้น ไม่ว่าพวกเขาอยู่ในบทบาทหน้าที่ใด มีใครอยู่ข้างกาย พวกเขาก็มักฟังความคิดเห็นและยอมรับคำวิจารณ์ของคนอื่น เพราะการทำเช่นนี้จะทำให้พวกเขารู้จุดแข็งและข้อบกพร่องของตนเองได้ดียิ่งขึ้น นี่จึงเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จและเป็นมหาเศรษฐี
. . .
คุณเองก็สามารถเปลี่ยนแปลงและฝึกฝนนิสัยของคุณให้เป็นแบบ “13 นิสัยมั่งคั่ง” นี้ได้ และคุณจะกลายเป็นเศรษฐีพันล้านเหมือนพวกเขาได้ไม่ยาก
อ้างอิง: https://www.facebook.com/107103310643167/posts/481101539910007/
หมายเหตุ: เป็นการแปลและเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
แปลบทความโดย: ปิ่นแก้ว ศิริวัฒน์
กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ 7D Book&Digital
. . .
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Pexels และ freepik