เคยสงสัยหรือไม่ว่า คนรวยส่วนใหญ่เขาทำกันอย่างไรถึงมีทรัพย์สินมหาศาลได้ เขาใช้วิธีไหนในการหาเงินให้ได้จำนวนมากและรวดเร็ว นี่คือ 8 กฎเหล็กในการทำเงิน ที่คุณเองก็นำไปปฏิบัติตามได้ แล้วคุณจะกลายเป็นคนรวยได้ไม่ยาก

ภาพถ่ายโดย August de Richelieu จาก Pexels
กฎข้อที่หนึ่ง: คุณอยากเป็นหมาป่าหรือแกะมากกว่ากัน
ไม่ว่าจะเป็นการเล่นหุ้น การเปิดบริษัท หรือการเริ่มต้นธุรกิจ จะมีประมาณ 10% ที่ทำเงินได้ และอีก 90% ที่สูญเสียเงิน นั่นคือกฎตายตัวของการตลาด คนจนจึงมักจะเป็นคนส่วนใหญ่
ดังนั้นหากคุณต้องการทำเงิน อย่าทำตามคนอื่น อย่าเป็นหนึ่งในนั้น การที่คุณจะเป็นหนึ่งในคนรวยไม่กี่คนได้นั้น คุณต้องเปลี่ยนวิธีคิด จงคิดแบบ “คนรวย”

ภาพถ่ายโดย Tima Miroshnichenko จาก Pexels
กล่าวคือ อย่าทำตามความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ แกะเท่านั้นที่จะอยู่กันอย่างกลมกลืน คุณจงเป็นหมาป่าที่แม้ว่าจะอยู่ตัวเดียวแต่ก็มีความกล้าและมีไหวพริบจนแม้แต่แกะก็กลัวคุณ
บนโลกนี้ มีคนเพียง 10% เท่านั้นที่ร่ำรวย 90% และในทางกลับกัน คน 90% จะมีคนที่ร่ำรวยเพียง 10%
“คนรวยคิดถึงอนาคต คนจนคิดถึงปัจจุบัน” นี่คือความแตกต่างระหว่างคนรวยกับคนจนและเป็นกฎข้อแรกของการทำเงินก็เช่นกัน

ภาพถ่ายโดย Tima Miroshnichenko จาก Pexels
กฎข้อที่สอง: เงินมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง การทำเงินไม่ยากอย่างที่คิด
เงินไม่ใช่อาชญากรรม ความรักที่จะทำเงินไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ไม่ใช่ความโลภ แต่เป็นความสามารถส่วนบุคคลซึ่งบ่งบอกถึงคุณค่าความเป็นมนุษย์และระดับสติปัญญาของพวกเขา
การทำเงินคุณต้องสนใจเงินก่อน คุณต้องปรับทัศนคติเรื่องเงินของตัวคุณเอง เช่น เงินมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง การทำเงินเป็นเรื่องง่าย เป็นต้น หากคุณคิดว่าการหาเงินยากเกินไป ก็จะทำให้คุณท้อแท้ สิ้นหวัง และยอมแพ้ได้ง่าย ๆ
ตรงกันข้าม ให้คิดว่าการหาเงินไม่ใช่เรื่องยาก แค่รู้จักใช้ความคิด และทำงานให้หนักที่สุด
การปรับทัศนคติเรื่องเงินเป็นกฎข้อที่สองของการทำเงิน
กฎข้อที่สาม: วิธีหาเงินที่ได้ผลที่สุด คือ การมุ่งความสนใจไปที่ด้านใดด้านหนึ่ง
มีหลายพันวิธีในการสร้างหาเงิน แต่ยิ่งวิธีซับซ้อนมากขึ้นเท่าใด เงินก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น ตรงกันข้าม มีวิธีง่าย ๆ อีกมากมาย เพียงแต่ต้องทำงานให้หนักเพื่อให้ได้เงินมาเยอะ ๆ
ตัวอย่างเช่น บิล เกตส์ (Bill Gates) กลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลกด้วยการสร้างซอฟต์แวร์ วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) เชี่ยวชาญเรื่องหุ้นและในไม่ช้าเขาก็กลายเป็นมหาเศรษฐี เจ. เค. โรว์ลิ่ง (J. K. Rowling) นักเขียนชาวอังกฤษ เริ่มเขียนหนังสือเมื่ออายุ 40 ปี และกลายเป็นมหาเศรษฐีเมื่อเธอตีพิมพ์แฮร์รี พอตเตอร์ ดังนั้น แม้ว่าคุณจะไม่ได้เป็นอัจฉริยะ แต่จงใช้สมาธิและความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าเพื่อสร้างเงินให้กับตนเอง

ภาพถ่ายโดย fauxels จาก Pexels
กฎข้อที่สี่ : ถ้าอยากได้เงินเยอะ ๆ ต้องมีเป้าหมาย
เมื่อพูดถึงความร่ำรวย คนรวยล้วนมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นก็คือ เป้าหมาย
ถ้าคุณต้องการสร้างบ้าน คุณต้องวาดมันออกมาก่อน ถ้าคุณต้องการซ่อมแซมสะพาน คุณต้องวัดมันก่อน คนที่ไม่มีเป้าหมายจะสำเร็จตามเป้าหมายอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าต่างจากคนที่มีเป้าหมายชัดเจน
คนที่มีเป้าหมายใหญ่จะทำเงินได้มาก คนที่มีเป้าหมายเล็กจะทำเงินได้น้อย และคนที่ไม่มีเป้าหมายเลยจะกังวลเรื่องเงินทุกวัน
ถ้าไม่มีเป้าหมาย แม้ว่าคุณอยากลงมือทำสักแค่ไหน คุณก็ไม่รู้อยู่ดีว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน ยิ่งไปกว่านั้น มันง่ายมากที่จะทำให้ตัวคุณเองหลงไปในทางที่ผิด ทำผิดพลาด หลงทาง กลายเป็นคนเกียจคร้านและลอยไปลอยมา

ภาพถ่ายโดย Andrea Piacquadio จาก Pexels
กฎข้อที่ห้า: สร้างรายได้ด้วยความคิดของคุณจริง ๆ
ยุคนี้ ถ้าอยากหาเงินให้ได้เยอะ ๆ เร็ว ๆ ก็ควรต้องใช้สติปัญญาด้วย
คุณเคยเห็นใครที่หาเงินมาก ๆ โดยใช้แรงงานหรือสติปัญญาของคนอื่นหรือไม่? หลายคนอาจจะตอบว่า ก็พวกนักกีฬาไงล่ะ แต่ ไมเคิล จอร์แดน (Michael Jordan) อดีตนักบาสเกตบอลชาวอเมริกันมือหนึ่งของโลกซึ่งปัจจุบันได้ผันตัวมาเป็นนักธุรกิจ เคยยืนยันไว้ว่า “ผมไม่ได้ใช้แขนขาหาเงิน แต่ผมใช้ความคิดของผม”

ภาพถ่ายโดย Andrea Piacquadio จาก Pexels
ลองคิดดู แม้ว่าพวกเขาจะเป็นนักกีฬา แต่ถ้าพวกเขาไม่ฝึกสมองเพื่อให้คิดได้อย่างรอบคอบเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของพวกเขา ฝึกสมองเพื่อประสานกับปฏิกิริยาที่รวดเร็วของแขนขาของพวกเขาเพื่อให้เคลื่อนไหวได้อย่างถูกต้อง พวกเขาจะชนะคู่แข่งได้อย่างไร
การหาเงินเริ่มต้นด้วยความคิดเสมอ เงินของคนรวยก็คือ “ความคิด” พวกเขานั่นเอง เงินจะมาพร้อม ๆ กับความคิดและทำงานไปพร้อม ๆ กับความคิด ดังนั้นแม้ว่าคุณจะกลายเป็นคนจน แต่คุณก็ยังสามารถใช้สติปัญญากลับคืนสู่ความร่ำรวยได้อีกครั้งเสมอ
กฎข้อที่หก: กล้าที่จะลงมือทำ!
วิธีหาเงินมีมากมาย แต่คนที่กล้า “เสี่ยง” นั้นหาได้ยาก
คนส่วนใหญ่ชอบความมั่นคง ยอมรับชีวิตที่ธรรมดาเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการลงทุนต่าง ๆ ที่อาจสูญเสียเงินไปได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความมั่นคง “ไม่มีอยู่จริง” ไม่ว่าจะเป็นความความสูญเสียใด ๆ ก็ตาม มันจะนำมาซึ่งความเสี่ยงอยู่แล้ว ยิ่งถ้าคุณ ไม่ยอมลงทุนกับอะไรเลย ความเสี่ยงก็จะยิ่งมีมากขึ้นเป็นสองเท่า
บนโลกนี้ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรี ๆ คุณไม่สามารถเป็นคนร่ำรวยได้หากคุณ “ขี้เกียจ” ผัดวันประกันพรุ่ง และปฏิเสธที่จะลงมือทำ ถ้ากล้าคิดคุณก็ต้องกล้าทำ
โยฮัน ฟิชเทอ (Johann Fichte) นักปรัชญาชาวเยอรมัน เคยกล่าวไว้ว่า “รางวัลและความเสี่ยงมักจะมีสัดส่วนเท่ากันเสมอ”
จงลงมือทำ อย่ากลัว พยายามก้าวออกจาก Comfort Zone แม้ว่าจะล้มเหลว ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า

ภาพถ่ายโดย fauxels จาก Pexels
กฎข้อที่เจ็ด: เรียนรู้ที่จะทำเงิน
โลกนี้มีคนฉลาดอยู่มากมาย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ฉลาดจะร่ำรวย ถ้าอยากได้เงินเยอะ ๆ ต้องเรียนรู้วิธีหาเงิน!
มหาวิทยาลัยไม่ใช่หนทางสู่ความสำเร็จ 100% แต่การศึกษาด้วยตนเองย่อมเป็นไปได้
ไม่ว่าจะโรงเรียนประถมหรือมหาวิทยาลัย ครูมักจะสอนแต่ความรู้ แต่ไม่เคยแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเราจะทำเงินได้อย่างไร ดังนั้นการจะทำเงินได้นั้น เราต้องให้ตัวเองกับความเป็นจริงแล้วเรียนรู้ด้วยตัวเอง

ภาพถ่ายโดย Dziana Hasanbekava จาก Pexels
คนรวยอย่าง ลี กาชิง (Li Ka-shing) มาซาโยชิ ซน (Masayoshi Son) หรือ บิล เกตส์ (Bill Gates) ไม่ได้ร่ำรวยเพียงเพราะว่าพวกเขามีไอคิวสูงเพียงอย่างเดียว พวกเขาทั้งหมดมีสองสิ่งที่เหมือนกัน คือ ความปรารถนาที่จะทำเงินและความสามารถในการเรียนรู้ที่แน่วแน่
ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ การฝึกงาน หรือการเริ่มต้นธุรกิจในชีวิตจริง คุณไม่เพียงแต่ต้องทุ่มเทความพยายามเท่านั้น แต่ยังต้องปรับแนวคิดทางการเงินของคุณเสมอด้วย

ภาพถ่ายโดย Karolina Grabowska จาก Pexels
กฎข้อที่ 8: อยากหาเงินได้มาก คุณต้องมีทางเลือก
ทางเลือกเป็นโชคอีกรูปแบบหนึ่ง ทางเลือกที่ดีจะนำมาซึ่งความร่ำรวยได้ ทางเลือกที่ไม่ดีจะทำให้เสียเงิน เสียเวลา และความพยายามที่ไร้ประโยชน์
จุดประสงค์ของการมีทางเลือกก็คือ ทำให้เราเป้าหมายที่ชัดเจนแน่นอน ไม่ต้องเลือกตามกระแส ไม่ต้องเลือกตามคนอื่น คุณควรเลือกทางของตัวเอง เลือกสิ่งที่เหมาะสมกับคุณที่สุด
หากคุณต้องการเริ่มต้นธุรกิจ ดังนั้นคุณต้องเลือกธุรกิจที่เฉพาะเจาะจง จากการวิเคราะห์คนรวยในโลก ธุรกิจส่วนใหญ่ที่พวกเขามักจะลงทุนคือ อสังหาริมทรัพย์และหุ้น มากกว่า 60% ของคนในสหรัฐอเมริกาและยุโรปจะลงทุนไปกับหุ้น

ภาพถ่ายโดย Karolina Grabowska จาก Pexels
ใช้เวลาทำในสิ่งที่คุณชอบ มีอิสระทางการเงิน ถึงแม้ว่าคุณจะทำเงินได้หรือร่ำรวยแล้วก็ตาม อย่าสนใจแต่ผลกำไรและชื่อเสียงเพียงอย่างเดียวเด็ดขาด แต่จงให้ความสำคัญกับคุณค่าที่มีความหมายที่คุณจะได้รับด้วย นอกจากคุณจะหาเงินได้มากแล้ว ชีวิตของคุณก็จะเต็มไปด้วยความสุข
อ้างอิง: https://www.facebook.com/DamMeVaKhatVong/photos/a.111728830658481/322405622924133/
หมายเหตุ: เป็นการแปลและเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
แปลบทความโดย: ปิ่นแก้ว ศิริวัฒน์
กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Pexels