“รู้หรือไม่? เราสามารถพบเห็นมีม (Meme) อยู่บนโซเชียลมีเดียของเรากว่า 90% เลยนะ”
อย่างแรกเลย มาทำความรู้จักกับ “มีม (Meme)” กันก่อนนิดนึง…
ง่ายๆ เลยก็คือมีมคือการถ่ายทอดไอเดีย, พฤติกรรมอย่างมี Concept ของสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่เผยแพร่อยู่บนอินเทอร์เน็ต โดยสามารถทำออกมาได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งรูปภาพ, วิดีโอ, GIF หรือข้อความ
ซึ่งการกระจายไปทั่วโลกโซเชียลของมีมนั้นถือได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก ดังนั้นนี่คือสาเหตุที่นักการตลาดไม่ควรละเลยที่จะปรับตัวให้เข้ากระแส ใช้มันสร้างประโยชน์หรือโฆษณาแบรนด์/สินค้าของคุณ เพื่อให้แบรนด์ของตัวเองกระจายไปสู่วงกว้างไปพร้อมกับมีมที่สามารถรุกรามได้กว้างไกลและรวดเร็วราวกับไฟป่า
ข้อดีของการใช้มีมในทางการตลาดเพื่อกระจายแบรนด์-สินค้าคือไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรมากมาย เพราะเราสามารถหามีมสำเร็จรูปที่มีอยู่จำนวนมากได้จากอินเทอร์เน็ต สิ่งที่คุณต้องทำก็เพียงแค่มี Concept ของแบรนด์/สินค้าที่ชัดเจนและต้องเข้ากับมีมตัวนั้นได้อย่างพอดี จากนั้นก็แค่ส่งมันออกไปทำงานด้วยการกดโพสต์เท่านั้น
นอกจากนี้ มีมยังสามารถทำหน้าที่ในการดึงคนที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกันเข้ามารวมกลุ่ม ด้วยการกดไลก์ แสดงความคิดเห็น หรือแม้แต่กดแชร์ ซึ่งถือเป็นตัวช่วยอีกแรงของคุณในการส่งต่อแบรนด์/สินค้าออกไปสู่สายตาผู้คนได้มากขึ้นด้วย
ดังนั้น การตลาดโดยการใช้มีมจะช่วงส่งเสริมการเล่าเรื่องของแบรนด์/สินค้าของคุณ เป็นวิธีที่สนุกและไม่ยุ่งยากในการเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายและยังสามารถเพิ่มกลุ่มเป้าหมายด้วยการเข้ามามีส่วนร่วมและสนใจแบรนด์/สินค้าของคุณด้วยการส่งต่อๆ กันออกไป
เห็นไหมว่ามีมก็เป็นหนึ่งในการทำให้การตลาดของคุณขยับขยายไปได้กว้างไกลมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่กับแบรนด์ดังๆ ที่ต่างก็ใช้มีมเข้ามาช่วยในเรื่องการตลาด ซึ่งมีผลตอบรับที่ดีมากๆ
วันนี้เรามีตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ มาแบ่งปันให้นักการตลาดได้ดูเผื่อใช้เป็นแนวทางในการทำการตลาดของคุณให้ประสบความสำเร็จไปอีกขั้น
- Strong Black Lead ของ Netflix
รู้ไหมว่าอีกสิ่งหนึ่งทีมโซเชียลมีเดียของ Netflix ทำได้ดีคือการสร้างมีม โดยการใช้ภาพฉากฉากหนึ่งจากหนัง/ซีรีส์บนสตรีมมิ่งของตัวเองมาผสมกับแนวคิดจนเกิดเป็นผลงานมีมที่สร้างขึ้นมาใหม่และได้รับความนิยมอย่างมาก
- Diamond Express Travels
เป็นอีกผลงานมีมที่เราคุ้นเคยกันค่อนข้างดี เชื่อว่าหน้าฟีดของหลายคนต้องมีมีมใบหน้าของ Drake ขึ้นอยู่ไม่น้อย เป็นภาพที่มาจากเอ็มวีผลงานเพลงของ Drake ที่ถูกแคปภาพบางส่วนออกมาแล้วสื่อถึงเรื่องของความเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
โดยมีมนี้ถูกใช้ทางการตลาดของบริษัทตัวแทนการเดินทางท่องเที่ยวอย่าง Diamond Express Travels ก็ได้ดึงเอามีมนี้มาใช้ในการโปรโมทบริษัทด้วยการทำการเปรียบเทียบในเรื่องการบริการระหว่างบริษัทตัวเองและบริษัทคู่แข่ง เรียกได้ว่าเป็นกลยุทธ์ง่ายๆ ของการทำธุรกิจที่ได้รับความสนใจอย่างมาก
- Hydrop.io
เป็นมีมที่มีให้เห็นกันมานานแสนนาน แต่ทุกวันนี้ก็ยังได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย สำหรับภาพที่มีชายหญิงที่อาจจะเป็นคู่รักคู่หนึ่งเดินสวนกับหญิงอีกคน แล้วผู้ชายหันมามองผู้หญิงที่เดินสวนไปอาจเพราะด้วยความน่าสนใจ/น่าดึงดูดของเธอที่มีมากกว่าคนที่มาด้วย จนทำให้ผู้หญิงคนนั้นออกอาการไม่พอใจ ซึ่งมีมนี้ถูกนำไปตีความและใช้ในหลายๆ เหตุการณ์จนได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
ไม่เว้นแม้แต่บริษัทผลิตน้ำในประเทศอินเดียอย่าง Hydrop.io ที่สร้างมีมนี้ขึ้นมาเพื่ออธิบายให้กลุ่มผู้บริโภคได้เข้าใจในเรื่องความแตกต่างของน้ำ ซึ่งก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาพยายามจะบอกว่าน้ำของเขาดีที่สุด ซึ่งน้ำประเภทนี้ก็ได้รับความสนใจในกลุ่มบริโภคสมัยใหม่อยู่แล้ว แน่นอนว่าการใช้มีมก็ยิ่งทำให้ผลิตภัณฑ์ของเขาได้รับความนิยมมากขึ้น
- Purity Coffee
มีมนี้มาจากฉากในหนังเรื่อง Star Wars: Episode 2 Attack of the Clones ที่คาแรคเตอร์ของตัวละครมาเป็นตัวสื่อสาร โดยมีผู้ชายหน้าตายกับผู้หญิงหน้าตาแฮปปี้ก่อนจะรู้ความจริงว่าตัวเองเข้าใจผิดจากเรื่องที่พูดคุยกับผู้ชาย
บริษัทกาแฟอย่าง Purity Coffee ก็ได้ใช้มีมนี้เป็นตัวช่วยในการอธิบายข้อมูลในทางวิชาการให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น และยังเป็นประโยชน์กับแบรนด์ตัวเองด้วย
- Yappy
เป็นอีกหนึ่งมีมที่เรารู้จักและคุ้นเคยกันดี ที่ผู้ชายกำลังอธิบายในเรื่องในเรื่องหนึ่งที่ทุกคนคิดว่ามันเป็นเรื่องยาก ที่ร้าน Yappy ได้ยกมาใช้เพื่อล้อเลียนอย่างน่ารักให้ผู้ติดตามได้เห็นว่า “มันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่เราจะเลี้ยงหมา 4 ตัว” พร้อมกับแคปชันที่อธิบายอย่างขัดแย้งว่า “ในขณะที่เราต้องเปลี่ยนจากนอนที่นอนมานอนบนโซฟา สลับกับทำงาน และยังต้องเปลี่ยนจากรถยนต์ธรรมดาๆ เป็นรถตู้”
เป็นการใช้มีมที่น่ารักมากๆ แถมยังดึงดูดให้ทาสหมาทาสแมวสนใจที่จะเลี้ยงสัตว์เพิ่มและเลือกที่จะไปดูสัตว์เลี้ยงต่างๆ ที่ร้านของเขา
แน่นอนว่าการใช้มีมเป็นตัวช่วยดันให้แบรนด์/สินค้าของคุณเป็นที่สนใจได้มากขึ้น แต่ถึงมันจะสนุกๆ แต่จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะด้วยความที่มีมจัดว่าเป็นงานศิลปะอีกประเภทหนึ่ง ที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ค่อนสูงโดยที่ไม่ละทิ้งความเป็นตัวตนของแบรนด์/สินค้า และยังต้องทำตามกฎของมีมที่มีอย่างไม่เป็นทางการ แต่เพื่อให้เหล่านักการตลาดได้ทำให้แบรนด์/สินค้าของคุณโดดเด่น เป็นที่จับตามอง และต้องไม่กระทบต่อคนอื่นๆ ด้วย
อ้างอิง:
- 13 Examples of Meme Marketing + 3 Best Practices to Follow จาก https://bit.ly/3KtDv1O
หมายเหตุ: เป็นการแปลและเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
แปลและเรียบเรียงโดย: ฐานิต ดงหงษ์
กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Pexels, เว็บไซต์ Hubspot, เว็บไซต์ Post Family และ Youtube