เมื่อตลาดมีผู้เล่นเจ้าใหญ่ครองตลาดอยู่แล้ว การเข้าไปชิงส่วนแบ่งจึงไม่ใช่เรื่องง่าย
Disney คือบริษัทที่ทำธุรกิจสื่อขนาดใหญ่ที่คนทั่วโลกจดจำได้จากหนังแอนิเมชันนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะในช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมา พวกเขาพาเด็กผู้หญิงทั่วโลกเข้าไปอยู่โลกของ Frozen หนังแอนิเมชันที่ทำเงินได้จากภาค 1 และ 2 รวมกันทะลุ 2 พันล้านเหรียญ
ส่วนค่ายรองก็มีทั้ง DreamWorks เจ้าของผลงาน Shrek, Madagascar, How to Train Your Dragon และ Kung Fu Panda หรือจะเป็น Sony Pictures ผู้สร้าง The Smurfs, Angry Birds และ Hotel Transylvania
ทั้งสามชื่อที่กล่าวไปข้างต้นล้วนอยู่ในวงการมาไม่ต่ำกว่า 20 ปี แถมยังมีผลงานที่ครองใจเด็กออกมามากมาย ดังนั้นการจะก้าวเข้ามาชิงส่วนแบ่งหรือสร้างชื่อให้คนรู้จักจึงไม่เรื่องง่าย และไม่ได้ยากเกินไปเช่นกัน
ในปี 2007 Illumination Entertainment สตูดิโอผลิตหนังแอนิเมชันเจ้าหนึ่งได้ถือกำเนิดขึ้น และใช้เวลาอยู่ 3 ปี ปล่อยผลงานชิ้นแรกออกมาในชื่อ Despicable Me หนังเล่าเรื่องวายร้ายคนหนึ่งชื่อ “กรู” ที่อาศัยอยู่ในบ้านพร้อมกับห้องทดลองใต้ดินขนาดใหญ่ และผู้ช่วยตัวน้อยสีเหลืองที่เขาเรียกว่า “มินเนี่ยน” (Minions)
สิ่งที่ทำให้ผู้ชมในโรงเริ่มตกหลุมรักพวกมันนอกจากเนื้อเรื่อง ก็คงเป็นความน่ารัก น่าเอ็นดู และความไร้เดียงสา ที่ทีมสร้างใส่เข้าไปให้ตัวละครมีความโดดเด่น เพราะไม่ว่าพวกมันจะทำอะไรในเรื่องก็มักจะตามมาด้วยความวุ่นวายเสมอ ไหนจะภาษาพูดของพวกมันที่ไม่มีใครฟังออกเลยนอกจากคำว่า “บานาน่า” ทำให้คนดูรู้สึกสนุกทุกครั้งที่เห็นความซนและกวนประสาทของมัน
หนังภาคแรกทำรายได้ไป 543 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 69 ล้านเหรียญ ทีมงานจับทางได้แล้วว่าคนดูต่างชื่นชอบมินเนี่ยน พวกเขาสร้างภาค 2 โดยใช้ทุนเพิ่ม 7 ล้านเหรียญ แต่กลับทำรายได้เพิ่มขึ้นจากภาคแรกมากถึง 400 ล้านเหรียญ
จากหนัง 2 ภาค ทำให้ผู้สร้างเริ่มเป็นที่รู้จัก มีการผลิตสินค้าและหนังสั้นจากหนังหลักออกมาจนได้รับความนิบม แต่หลังจากที่หนังฉายไป 2 ภาค ก็เกิดคำถามจากฝั่งคนดูแล้วว่า เจ้ามินเนี่ยนตัวเหลืองเหล่านี้มีที่มาจากไหน
นั่นจึงเป็นไอเดียทำให้เกิดภาคแยก Minions ในปี 2015 ที่พาคนดูไปรู้จักกับต้นกำเนิดของมันและช่วยตอบข้อสงสัยหลายอย่าง
นอกจากนี้ ยังทำให้เห็นว่าพวกมันไม่ได้มีแต่ความไร้เดียงสาเหมือนเด็กที่คิดจะเล่นสนุกไปวันๆ เพราะเมื่อพวกมันหาที่อยู่เป็นหลักแหล่งได้แล้ว ความดีใจที่เกิดขึ้นในช่วงแรกนานวันเข้ากลับกลายเป็นความน่าเบื่อเพราะในแต่ละวันก็มีแต่กินกับเล่นอยู่ในถ้ำน้ำแข็งวนไป ไม่ได้ออกมาเจอโลกข้างนอกอีกเลย
กระทั่งมีมินเนี่ยนอยู่ตัวนึงที่อยากออกจากคอมฟอร์ตโซน เลยประกาศหาพี่น้องที่จะออกไปเจอโลกกว้างอีกครั้ง แต่การจะออกไปโลกข้างนอกโดยยังไม่แน่ใจว่าจะเจออะไรบ้างก็เป็นสิ่งที่ทุกคนกลัว
สุดท้าย เควิน ก็ได้น้อง 2 คน ได้แก่ สจ๊วตกับบ็อบ ที่พร้อมออกเดินทางไปตามหาบ้านหลังใหม่ด้วยกัน
ภาพการเดินทางออกจากถ้ำยังทำให้เราเห็นว่าพวกมันมีความเป็นครอบครัวและพี่น้องที่คอยดูแลกันเปลี่ยนความเข้าใจของคนดูจากความตลกให้กลายเป็นความรักในมิตรภาพ
การเดินทางอันยาวไกลที่คนดูได้เห็นเควินที่คอยช่วยเหลือน้องทั้งสองคนไปจนถึงเมือง สร้างการรับรู้ใหม่และเพิ่มความประทับใจให้คนดู จนสุดท้ายหนังภาคนี้จึงเป็นเครื่องการันตีความสำเร็จของเรื่องราวด้วยการทำรายได้ทะลุพันล้านเหรียญเป็นเรื่องแรกของค่าย และพามินเนี่ยนตัวเหลืองในชุดเอี๊ยมให้กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก
แม้ว่าชื่อเสียงของค่ายเล็กที่พึ่งเกิดมาอาจจะยังไม่ได้มีมากเท่ากับค่ายใหญ่ที่ครองตลาดมานาน แต่พวกเขาก็สามารถสร้างคาแรคเตอร์ที่แปลกใหม่และเรื่องราวที่น่าติดตาม จะกลับมาไล่ดูใหม่ทุกภาคก็ยังไม่เบื่อ
นี่จึงเป็นแค่จุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่สามารถจะเปลี่ยนชื่อเสียงของใครบางคนให้กลายเป็นที่รู้จักได้
ถ้าคุณมีเรื่องเล่าใหม่ๆ ที่ต่างไปจากเดิม
.
เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ 7D Book&Digital
ภาพประกอบจาก : Pexels