ทำไมเราถึงแก่? แก้ปัญหาจากต้นตอ แค่รู้สาเหตุ หน้าก็เด็กลงได้

แก่ เกิน วัย !
อันตรายของสุขภาพที่มาพร้อมกับริ้วรอย

เคยไหม..โดนคนอายุน้อยกว่าเรียกว่า พี่ !
หรือบางที ก็เจอเด็กแถวบ้านตะโกนเรียก ป้าาา !!!

ความคิดแว๊บแรกที่เข้ามาในหัวนั้นเต็มไปด้วยความโกรธ เลือดภายในตัวกำลังพุ่งพล่านและเดือดปุด ๆ อยากตะโกนบอกอายุที่แท้จริงกลับไปดัง ๆ แต่ก็ทำไม่ได้…เพราะหลักฐานแห่งความชราดันปรากฏเด่นชัดอยู่บนหน้า ทั้งตีนกา ใต้ตาดำคล้ำ รอยย่นบนหน้าผาก หิวก็แห้งกร้าน กระฝ้าก็มาเต็ม แถมอารมณ์ยังแปรปรวนอีก

โอ้โห…เถียงไม่ออก
หรือเราจะเข้าสู่วัยทองแล้วจริง ๆ ?

ในขณะที่คุณกำลงเครียดกับสุขภาพผิวที่ย่ำแย่ลงทุกวันจากริ้วรอยและอารมณ์ที่ขุ่นมัวอยู่บ่อย ๆ แล้ว ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือ ‘สุขภาพ’

เพราะสิ่งที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าและร่างกาย อาจเป็นสัญญาณเตือนที่บ่งบอกถึงโรคร้าย และสุขภาพภายในร่างกายที่อ่อนแอลงด้วย ซึ่งวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด นั่นก็คือการ ‘ค้นหาสาเหตุ’ เมื่อเข้าใจแล้วว่าความแก่นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แน่นอนว่าเราจะหาหนทางรักษาได้ทันท่วงที

และนี่..คือเหตุผลที่ว่า “ทำไมเราถึงแก่”

สรุปแล้วมันเป็นเพราะอะไป ไปดูกัน !

คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ

เริ่มจาก สังเกตตัวเอง ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก และอารมณ์ความรู้สึกที่มีในใจ

ก่อนจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีผิวหน้าอ่อนกว่าวัยและมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ ทุกคนต้องหันมา ‘ใส่ใจตัวเอง’ กันซะก่อน

ดูแลเอาใจใส่ตัวเองให้มาก แบ่งเวลาอันยุ่งเหยิงในแต่ละวันมาส่องกระจก พิจารณาตัวเอง แล้วสังเกตถึงอารมณ์ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน

ลองดูสิว่าช่วงนี้ผิวพรรณและหุ่นของเราเป็นอย่างไร ดูหมองคล้ำกว่าปกติไหม มีสิว ฝ้า กระเกิดขึ้นบนใบหน้าบ้างหรือเปล่า

แล้วอารมณ์ล่ะ แปรปรวนบ่อย โกรธง่าย เหนื่อยง่าย นอนไม่กลับ ไม่สดใสเหมือนแต่ก่อนหรือเปล่า ?

เมื่อสังเกตตัวเองจนแน่ชัดแล้ว จากนั้นก็หันไปมองที่สาเหตุเลย แล้วจะรู้ว่าทำไมร่างกายของเราถึงได้พังยับขนาดนี้

สำรวจพฤติกรรมการใช้ชีวิต อะไรคือต้นตอของความแก่ ?

เมื่อมองเห็นสุขภาพร่างกายและผิวหน้าที่เริ่มหย่อนคล้อยลง หลายคนคงนั่งปวดใจและปาดน้ำตาอยู่หน้ากระจก

แต่อย่าทนทุกข์ไปเลยค่ะ เพราะการนั่งเศร้าจะยิ่งทำให้เราเครียด พาลทำให้หน้าแก่ลงไปเปล่า ๆ

เพราะฉะนั้น แทนที่จะนั่งหมกมุ่นอยู่กับปัญหา เรามามองหาสาเหตุกันดีกว่าค่ะ โดยเริ่มจากการสำรวจพฤติกรรมและกิจวัตรประจำวันของตัวเอง

ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตอย่างไร มีพฤติกรรมไหนที่ดูจะไม่เข้าท่าบ้าง เช่น นอนน้อย กินแต่อาหารขยะ ไม่ออกกำลังกาย เครียดมาก คิดเยอะก่อนนอน ใช้โทรศัพท์มือถือเกินความจำเป็น กินข้าวไม่ตรงเวลา ทำงานหนัก ไม่ดูแลตัวเอง พักผ่อนไม่เพียงพอ และอื่น ๆ

เมื่อรู้แล้วลองเขียนออกมาเป็นข้อ ๆ คุณจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าต้องเริ่มดูแลตัวเองจากจุดไหน

เพราะพฤติกรรมเหล่านี้จะแสดงให้เห็นถึงคุณภาพชีวิตที่ค่อนข้างย่ำแย่ ซึ่งมีความสัมพันธ์กันธ์กับอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในร่างกายอย่างมาก และเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เราแก่เกินวัยนั่นเอง

ยิ่งเครียด ฮอร์โมนยิ่งเปลี่ยนแปลง หน้าเรายิ่งแก่เร็ว

บางคนอายุเพิ่งจะสามสิบต้น ๆ แต่สุขภาพร่างกายไม่ต่างจากคนหกสิบกว่า ๆ

นั่นเป็นเพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความกดดันและความเครียด อีกทั้งยังไม่ดูแลตัวเอง จนส่งผลให้สุขภาพย่ำแย่ และมีอาการเหมือนคนแก่ ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนที่แปรปรวนก่อนวัยอันควร

นพ.วรโชติ กรัณยโสภณ ได้กล่าวเอาไว้ในหนังสือว่า “เมื่ออายุมากขึ้น นอกจากร่างกายที่ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติแล้ว สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอีกอย่างหนึ่ง คือ ฮอร์โมน(Hormone)”

โดยได้อธิบายเพิ่มเติมเอาไว้ว่า…เมื่อ Cortisol หรือฮอร์โมนความเครียดเพิ่มสูงขึ้น จะส่งผลให้เรามีอารมณ์และพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น เหนื่อยง่าย และอารมณ์เสียง่ายขึ้นกว่าเดิม ในขณะเดียวกัน Human Growth Hormone (HGH) หรือโกรทฮอร์โมนก็จะทำงานลดลง ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมันแย่ลง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้คนสูงอายุส่วนใหญ่มีรูปร่างเทอะทะ และมีผิวหนังหย่อนยาน

ไม่ใช่แค่หน้าแก่…สุขภาพก็แย่ และอาจมีโรคตามมา

อาการที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเรา ไม่ได้ลดทอนความสวยงามให้ลดลงเท่านั้น แต่อาจเป็นสัญญาณเตือนบ่งบอกโรคร้ายที่จะเกิดขึ้นอีกด้วย

เช่น การที่คุณอารมณ์แปรปรวนบ่อยและนอนไม่หลับ นัน่อาจเป็นอาการเริ่มต้นของโรคซึมเศร้า หรือเมื่อคุณรู้สึกเหนื่อยง่ายกว่าแต่ก่อน นั่นอาจเป็นอาการของโรคอ้วนหรือโรคเบาหวาน หรือเมื่อคุณปวดท้องบ่อย ๆ และไม่อยากอาหาร ทานข้าวได้น้อยลง นั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของโรคกระเพาะอาหารอักเสบนั่นเอง

เพราะฉะนั้น หากต้องการมีสุขภาพที่ดี ต้องย้อนกลับไปมองที่พฤติกรรมใหม่ และปรับปรุงแก้ไขมันเสีย เพื่อไม่ให้เกิดโรคบานปลายขึ้นอีก