เพราะไม่รู้เรื่องเงินจึงเจ็บปวด
คนเราควรได้คิดเรื่องเงินตอนอายุเท่าไหร่
15, 25 หรือหลังจากนั้น
แต่รู้ตอนอายุ 55 ยังทันอยู่มั้ย
ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหน แค่ได้คิด แค่คิดได้ ก็ถือว่าชนะไปกว่าครึ่ง
ผู้คนที่ผ่านการใช้ชีวิตมาพอสมควรรู้ดีว่า การแก้ปัญหาเรื่องเงินมันเป็นเรื่องที่ยาก แม้ว่ามันสามารถแก้ไขได้ก็ตาม
บางคนก็บอกว่ารู้งี้…ใส่ใจเรื่องเงินตั้งแต่อายุน้อยไปแล้ว
คิดว่านาทีทองสําหรับการสร้างเงิน หรือการมีเรี่ยวแรงในการหาเงินของ แต่ละคน น่าจะมีเวลาคนละราว ๆ 20 – 30 ปี แต่ในช่วงเวลาดี ๆ มีรายได้มาก คนก็ใช้มาก ใช้จนลืมคิดว่า จะพึ่งพาอาศัยอะไรเพื่อให้ชีวิตมีความมั่นคงหลังจากนั้น ไหนจะเงินก็ดูแลครอบครัวและลูก ดูแลพ่อแม่ รวมถึงเงินสําหรับตัวเอง
การเป็นมนุษย์ต้องมีความสามารถในการหาเงินและต้องมีสติในการเก็บเงินด้วย และที่สำคัญที่สุดต้องมีเคล็ดลับในการจัดการและวางแผนการเงินส่วนบุคคล
การหาเงินคือการรับใช้ตัวเอง การใช้เงินคือการให้คุณค่ากับตัวเอง
หากเงินที่ได้รับมาคือการยกระดับคุณภาพชีวิต นั่นก็คือสิ่งที่จำเป็น
แต่การรู้ว่าการหาเงินที่ดีที่สุดคือระงับความอยาก หยุดเสียเงินเพื่อตอบสนองตัณหาที่เกินเหตุ นั่นคือความสามารถพิเศษในการใช้เงินเพื่อสร้างเงินใหม่ มันคือหลักประกันชั้นสูงที่สุดสำหรับอนาคต
เงินก็ต้องหาต้องใช้ และยังต้องประหยัดอดออมบางส่วนสำหรับสิ่งที่ไม่คาดคิด
สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ผู้คนควรตระหนักหลังจากผ่านการดิ้นรนหาเงินมานานพอสมควร
1. ไม่ควรใช้เงินทั้งหมด 10 บาทในกรณีที่มีรายได้ 10 บาท
ผู้รู้บอกว่าคุณควรแบ่งรายได้ ก่อนใช้จ่ายตามส่วน
– ส่วนหนึ่งสําหรับการใช้จ่ายพื้นฐาน
– ส่วนหนึ่งสําหรับซื้อของที่จําเป็น
– ส่วนหนึ่งที่สำคัญมากคือการออม เพื่อใช้เงินต่อเงินหรือสร้างเครดิต
– ส่วนหนึ่งมีไว้สําหรับสิ่งที่ไม่คาดคิด
2. ไม่ควรใช้วิธีที่นักวาดฝันใช้
คนจะรวยต้องรู้วิธีการใช้จ่ายแบบคนรวย คนที่มีรายได้น้อยกว่าก็จะมีวิธีการใช้จ่ายของตัวเอง
ไม่ควรใช้เงินเพียงเพื่อพิสูจน์บางอย่างให้ผู้คนยอมรับ เพราะบางทีหลังจากการใช้จ่ายแบบนั้น คุณก็จะเข้าสู่ละครชีวิตที่จมอยู่ในฉากของหนี้สิน ความกังวล ความเครียด อยู่เหมือนตายทั้งเป็น
3. วางแผนให้ดีก่อนทําอะไรบางอย่าง
การวางแผนจะช่วยเราในส่วนที่เหนือการคาดเดา เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในอนาคต การวางแผนบอกเราว่า รายได้ที่มีควรแบ่งเป็นกี่ส่วน และแต่ละส่วนต้องใช้เงินเท่าไหร่ ยิ่งวางแผนให้ดีเท่าไหร่ ความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินหรือการใช้จ่ายที่ไม่สมเหตุสมผลก็ยิ่งลดน้อยลง
4. จดก่อนจ่าย
คนส่วนใหญ่มีรองเท้าเป็นสิบคู่ เสื้อผ้าเต็มตู้ แต่ใช้จริงไม่ถึง 20% บางคนมีราวตากผ้าเป็นเครื่องออกกำลังที่ซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ แล้วยังระงับความอยากได้ไม่อยู่ ยังซื้อใหม่เข้ามาเพิ่มเพราะแพ้ฤทธิโฆษณา
จดก่อนจ่ายคือวิธีอุดรูรั่ว สิ่งที่ทำได้อีกแบบคือถ้าซื้อของเข้าบ้านหนึ่งชิ้น ก็ให้ทิ้งของที่มีอยู่ในบ้านหนึ่งชิ้น
5. รีไซเคิลของเก่ามาใช้ใหม่
ทักษะเพียงเล็ก ๆ น้อย ทำให้คุณสามารถสร้างสรรค์สิ่งของที่มีความหมายขึ้นมาใหม่ได้มากมาย ตัวอย่างเช่น แทนที่จะซื้อภาพวาดแพง ๆ จากร้าน คุณก็สามารถเลือกภาพสวย ๆ บนอินเทอร์เน็ตและพิมพ์ใส่กรอบและแขวนบนผนังบ้าน แทนที่จะซื้อกล่องแพง ๆใส่แปรงฟัน ใส่เครื่องมือแต่งหน้า คุณสามารถใช้แก้วน้ำหรือแก้วเซรามิกที่มีอยู่ในบ้านแทนได้
6. จะรวย ต้องรู้จักการใช้เงินอย่างมีเหตุผล
เมื่อเราโชคดีที่มีรายได้ที่ดี เราก็ไม่ควรใช้เงินเพื่อชดเชยความยากจนที่เคยขาดแคลนในอดีต! เป้าหมายในชีวิตมีตั้งมากมาย หากไม่ใช่เพื่อตัวคุณเอง ก็คิดเพื่อลูกหลานบ้าง
7. ประหยัดแต่ต้องไม่ตระหนี่
สิ่งที่ต้องซื้อคุณก็ยังต้องซื้อ ไม่ควรตัดเพราะความตระหนี่ที่มากเกินไป เมื่อเราไปเยี่ยมผู้ใหญ่คนที่สําคัญของเรา คนที่มีบุญคุณกับเรา เราควรจะซื้อของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ แทนที่จะไปมือเปล่า
นี่คือสิ่งง่าย ๆ ที่ใครทำไม่ได้จะจนมาก
บทความโดย: กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Pexels