โลกใบใหม่ใน Metaverse เอกภพที่สมมติขึ้น
การสื่อสารพัฒนาควบคู่กันมากับเทคโนโลยี ในอดีตเราเขียนจดหมายลงกระดาษถึงกัน ใช้เวลาหลายวันกว่าสารจะไปถึงอีกฝ่ายในอีกที่ กลายมาเป็นข้อความในเพจเจอร์ เปลี่ยนมาเป็นโทรศัพท์ที่สามารถพูดคุย ได้ยินเสียงของกันและกันได้ในทันใด พัฒนามาเรื่อยทำให้สามารถเห็นหน้ากันและกันได้ ผ่านรูปถ่ายจนกระทั่งกลายเป็นวิดีโอที่สามารถเห็นภาพเคลื่อนไหวและได้ยินเสียงแบบเรียลไทม์ไปในที่สุด
แต่ทั้งนี้ เทคโนโลยีก็ยังไม่ถึงจุดสิ้นสุด เพราะ Metaverse เป็นขั้นกว่าที่ให้ได้มากกว่าวิดีโอคอลเสียอีก
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลอันดับ 1 ได้ประกาศว่าจะเปลี่ยน Facebook จาก Social Media Company ให้กลายเป็น Metaverse Company อย่างเต็มตัวภายใน 5 ปี
Metaverse ของ Meta ซึ่งรีแบรนดิ้งจาก Facebook คือ โลกเสมือนจริงที่จะย่นระยะทางให้ผู้ที่อยู่ปลายทางได้ขยับเข้ามาใกล้กันมากขึ้นกว่าที่เคย จากชุมชนในโลกออนไลน์จะกลายเป็นชุมชนในโลกเสมือนจริง สามารถเชื่อมต่อกันในพื้นที่เสมือนจริงนั้นโดยไม่ต้องมีข้อจำกัด
Metaverse จะแสดงสภาพแลดล้อมแบบสภาวะเสมือนจริงที่ผู้คนสามารถเชื่อมต่อได้ผ่านอินเทอร์เน็ต ต่างจากหน้าจอสี่เหลี่ยมของอุปกรณ์ที่ใช้สื่อสารกันในปัจจุบันนี้ไปโดยปริยาย ราวกับหลุดเข้าไปในอีกโลกใบหนึ่ง โลกที่เหนือจินตนาการ
หากใครเคยดูภาพยนตร์เรื่อง Ready Player One ก็คงจะเห็นภาพได้ง่ายขึ้น Metaverse คงเปรียบได้กับ The Oasis โลกเสมือนจริงภายในหนังนั่นเอง ซึ่งเราสามารถเลือกรูปลักษณ์ภายนอกได้ตามที่ใจต้องการ รวมไปถึงความบันเทิงต่าง ๆ ก็ยกระดับไปอีกขั้น ผู้คนสามารถใช้จ่ายกันได้ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะถูกนำไปใช้งานในโลกเสมือนจริง
เป้าหมายของแนวคิดในการสร้างโลกเสมือนจริงของ Meta นี้ก็เพื่อเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ให้เพิ่มมากขึ้นในอนาคต เนื่องจากปัจจุบันแม้ Facebook จะประสบความสำเร็จอย่างมากในเรื่องของการเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลอันดับ 1 ของโลก และสามารถขายโฆษณาผ่านช่องทางนี้จนทำรายได้อย่างมหาศาล
ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นแต่รายได้ของ Facebook ก็ไม่ได้มากเท่าที่ควรจะเป็น เพราะ Facebook ยังต้องพึ่งพาตัวจัดการในระบบปฏิบัติการอย่าง Play Store ของ Android หรือ App Store ของ iOS อยู่
ใน Metaverse จะมีพื้นที่แบ่งแยกกันออกไปตามจุดประสงค์ในการใช้ เช่น Horizon Home เป็นบ้านที่เมื่อเราเข้าไปในโลกเสมือนจริง เราก็จะไปโผล่อยู่ ณ ที่บ้านเป็นที่แรก Horizon World ที่สามารถสร้างโลกได้อย่างไม่จำกัดและเข้าไปทำกิจกรรมกับเพื่อนได้ Horizon Workrooms ห้องทำงาน หรือ Horizon Marketplace ที่ศิลปินสามารถขายและแชร์งานดิจิทัล 3 มิติได้
การเชื่อมต่อสังคมออนไลน์เข้าด้วยกัน
Metaverse มีแนวคิดที่ว่าเราจะสามารถแสดงออกทางอารมณ์บนโลกอินเทอร์เน็ตได้มากกว่าการรัวนิ้วลงบนแป้นพิมพ์หรือการจิ้มสัมผัสหน้าจอ ในโลกเสมือนจริงเราสามารถออกท่าทางได้เหมือนในชีวิตจริง ซึ่งตัวของเราก็สามารถสร้างได้ไม่จำกัดว่าจะเป็นแบบตัวการ์ตูน 3 มิติ หรือตัวจริงของเราเอง
ไปจนถึงบ้านของเราก็สามารถปรับแต่งได้ตามใจ ทั้งวิวทิวทัศน์ ต้องการบ้านสไตล์ไหน ลอฟต์ โมเดิร์น หรือเรือนไทยแบบโบราณก็ทำได้ทั้งนั้น
เราสามารถนำสิ่งของที่อยู่ในโลกจริงเข้าไปใน Metaverse ได้ เกือบทุกอย่างที่สามารถทำให้อยู่ในรูปแบบของดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ วิดีโอ งานศิลปะ เพลง ภาพยนตร์ หนังสือ เกม หรือแม้กระทั่งสามารถนำสิ่งของที่อยู่ในโลกเสมือนจริงนั้นไปไว้ในโลกจริง ๆ โดยแสดงออกในรูปแบบของโฮโลแกรมหรือรูปแบบของ AR ได้
ความบันเทิง
จะเป็นยังไงถ้าเราสามารถเข้าร่วมคอนเสิร์ตได้ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน?
ใน Metaverse ศิลปินหรือผู้สร้างผลงานในแต่ละแขนงจะสามารถเชื่อมต่อกับลูกค้าและแฟนคลับได้ และยังสามารถนำสิ่งของจากโลกเสมือนจริงมาไว้ในโลกจริง ๆ พร้อมทั้งสามารถใช้งานได้อย่างเหนือความคาดหมาย นอกจากนี้ยังสามารถขายสินค้าใน Horizon Marketplace ได้ ซึ่งการค้าขายสินค้าในโลกเสมือนจริงของ Meta นั้นจะช่วยให้ระบบเศรษฐกิจของ Metaverse เติบโตมากขึ้น
เกม
ในโลกที่ทันสมัยอย่างปัจจุบัน อาจกล่าวได้ว่าเกมให้ความรู้สึกและประสบการณ์ที่สามารถดื่มด่ำไปกับโลกเสมือนจริงได้ใกล้เคียงมาก นอกจากนี้ เกมยังเป็นอุตสาหกรรมความบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดก็ว่าได้
เกมใน Metaverse จะขยายขอบเขตจากประสบการณ์ที่สามารถดื่มด่ำไปกับโลกแฟนตาซีผ่านหน้าจอสี่เหลี่ยมมาเป็นการนำเอาเกมง่าย ๆ มาเล่นในวันธรรมดา ๆ ของเราผ่านโฮโลแกรม อาจจะเป็นการนำเกมเก่ามาเล่นในรูปแบบใหม่ เช่น เล่นหมากรุกโดยใช้โฮโลแกรม เล่นปิงปองบนโต๊ะโฮโลแกรมกับคู่แข่งที่อยู่อีกฟากโลก หรือเปลี่ยนให้เราเป็นตัวละครในเกมที่กำลังเล่นได้ เราอาจจะกลายเป็นผู้เหลือรอดที่ต้องวิ่งให้รอดชีวิตในเกมซอมบี้ก็เป็นได้
ฟิตเนส
เราสามารถออกกำลังกายในโลกเสมือนจริง ตั้งแต่ต่อยมวย ฟันดาบ ไปจนถึงเต้นได้ ลองจินตนาการไปถึงกลุ่มปั่นจักรยานใน Facebook ที่ร่วมกันปั่นจักรยานเพื่อการกุศล ไม่ว่าจะอยู่บนพื้นที่ใดของโลกก็สามารถเข้าร่วมกินกรรมได้ทั้งนั้น
จากเท่าที่ยกตัวอย่างในด้านต่าง ๆ ของ Metaverse จะเห็นได้ถึงการไร้ขอบเขตของความคิด และพื้นที่ที่เราจะใช้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเชื่อมต่อผู้คนได้ราวกับผู้นั้นนั่งอยู่ข้าง ๆ กัน
Metaverse จะขจัดข้อจำกัดของหน้าจอสี่เหลี่ยมออกไป ให้เราได้สัมผัสประสบการณ์เหนือจริงในโลกเหนือจินตนาการ ทั้งด้านความบันเทิง เกม สุขภาพ การเชื่อมต่อถึงกัน รวมไปถึงด้านการทำงาน ด้านการศึกษา พื้นที่ที่อยู่อาศัยก็จะไม่ถูกขวางกั้นอีกต่อไป
อ้างอิง
1. The Metaverse and How We’ll Build It Together — Connect 2021 (คลิกเพื่อรับชมวิดีโอ)