ทันทีที่ก้าวขาขึ้นรถได้สำเร็จ เชื่อว่าหลายคนต้องเอื้อมมือไปเปิดเพลงในเวลาต่อมา ถ้าเป็นรถสาธารณะ ทันทีที่หลังติดพนักพิงเมื่อไหร่ หลายคนก็จะหยิบเอาหูฟังมาใส่เช่นกัน อากัปกิริยาที่กลายเป็นเรื่องราวทั่วไปในชีวิตประจำวันแบบนี้กำลังส่งสัญญาณอะไรบางอย่างอยู่หรือเปล่า?
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเสียงดนตรีสามารถเข้าไปอยู่ในใจของใครแทบทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนดังที่ร่ำรวยมหาศาล หรือคนธรรมดาทั่วไปที่หาเช้ากินค่ำ ต่างต้องมีเสียงเพลงที่ชื่นชอบกันทั้งสิ้น
จะว่าไปแม้ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่ ก็ยังมีเสียงดนตรีที่ยังคงอยู่ในทุกยุคทุกสมัย นึกย้อนไปในสมัยก่อนก็คงนิยมเป็นเพลงรำวง เต้นรำ จังหวะสนุก เต้นตามจังหวะได้อย่างลงตัว แต่ปัจจุบันยุคสมัยค่อย ๆ เปลี่ยนแปลง แนวเพลงเริ่มมีการยอมรับมากขึ้น มีช่องทางให้ผู้ฟังมากขึ้น แนวเพลงขยายออกไปดูมีชีวิตชีวามากขึ้นทั้ง Pop ,Rock ,R&B ,Hip Hop ,Classic ,Electronic หรือ Jazz ก็ตามที
ดนตรีถูกนำมาใช้ประโยชน์ได้มากมาย ที่เด่นชัดหนึ่งเรื่องคือ Music Therapy หรือดนตรีบำบัด นอกจากจะใช้เพื่อความบันเทิงยังสามารถรักษาผู้ป่วยได้ พัฒนาศักยภาพด้านต่าง ๆ ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ แค่เสียงดนตรีเล็ก ๆ ส่งผลที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าจะคาดเดา
ดนตรีบำบัดที่ว่า ได้รับความนิยมมานานพอสมควร เพราะเชื่อกันว่าเสียงดนตรีจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดสำหรับผู้ป่วยได้ ไม่ว่าจะทางร่างกายและสภาพจิตใจ ผลพลอยได้ยังช่วยผ่อนคลายความเครียดของผู้ป่วยได้อย่างดี ทำให้มีการตอบรับในการรักษาที่ก้าวหน้าตาม
มีงานวิจัยในเรื่องการฟังดนตรีของผู้ป่วย ผลปรากฏว่าช่วยบำบัดให้ผู้ป่วยลดความกังวลและเตรียมพร้อมเข้าการรักษาอย่างยอดเยี่ยม เปรียบเทียบเท่ายาคลายเครียดชั้นดีชนิดหนึ่งเลย หรือดีไม่ดีประสิทธิภาพดีกว่าตัวยาที่ทำจากสารเคมีหลายพันเท่า
ความสามารถของดนตรีไม่ใช่แค่รักษาผู้ป่วยเท่านั้นหรอกนะ สำหรับผู้คนทั่วไปก็อุดมไปด้วยคุณประโยชน์คับแก้ว ทำให้ช่วยนอนหลับได้อย่างเต็มตื่น มีผลต่อจิตใจสารพัด กระตุ้นสมอง ปรับสารเคมีในร่างกายให้อยู่ในจุดที่ยอดเยี่ยมระดับหนึ่ง แถมยังช่วยให้ไม่เป็นโรคซึมเศร้าได้อีกต่างหาก
สังเกตหรือเปล่าว่าทำไมตามที่ต่าง ๆ เรามักพบเจอคนที่เล่นดนตรีเพื่อเรี่ยไรเป็นทุนการศึกษาก็ดี หรือเป็นค่าใช้จ่าย ค่าอาหารเลี้ยงปากท้องก็ดี เหตุผลง่าย ๆ เพราะว่าดนตรีสามารถเข้าถึงคนได้ง่ายที่สุด ไม่ว่าจะลูกเด็กเล็กแดง ไปจนถึง ผู้แก่ผู้เฒ่า เสียงดนตรีก็มีความสำคัญกับทุกคนอยู่เสมอมา
สำหรับผู้คนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง รายได้หลักมหาเศรษฐี ห้องทำงานอยู่ตึกสูงเสียดฟ้า วันทั้งวันแทบไม่มีเวลาว่าง ประชุมทั้งวันทั้งคืน พวกเขาก็รักและชื่นชอบในเสียงดนตรีไม่แพ้คนอื่นเป็นไหน ๆ
กอร์ดอน แรมซี่ย์ ยอดเชฟสุดโหด จาก Hell’s Kitchen รายการอาหารชื่อดังระดับโลก ถึงภายนอกดูจะเป็นคนดุดันแข็งแรง แต่ครั้งหนึ่งเขาได้ไปออกรายการที่สถานีวิทยุแห่งหนึ่งในอังกฤษ และถูกถามว่าหากเลือกเพลงโปรด 8 เพลงไปฟังตอนติดเกาะ หนึ่งในนั้นคือ Yellow เพลงยอดฮิตจาก Coldplay ทำเอาแฟน ๆ ว้าวไปพร้อมกัน เพราะด้วยบุคลิก น่าจะชอบเพลงสไตล์เฮฟวี่เมทัล แต่ตรงกันข้าม และไม่รู้ว่าชอบทำนอง หรือเนื้อเพลงที่ลึกซึ้งกันแน่
สำหรับแรมซี่ย์ เพลงนี้อาจจะตรงใจเขาในพาร์ทหนึ่งของชีวิต หรืออะไรก็ตาม ทำให้รู้ว่ามาดสุดเข้มในรายการก็ไม่อาจปิดบังความอ่อนไหวของเขาได้เหมือนกัน
บารัค โอบาม่า อดีตประธานาธิบดีคนดังของสหรัฐอเมริกา ด้วยหน้าที่การงานในช่วงเวลานั้นต้องรักษาภาพลักษณ์ผู้นำประเทศ อาจคิดว่าเขาอาจจะฟังเพลงคลาสสิคด้วยบุคลิก แต่เมื่อนักข่าวถามถึงเพลย์ลิสต์โปรดของเขา คำตอบที่ได้หนึ่งในนั้นคือ Ready or Not จาก The Fugees เพลงแนวฮิปฮอป โอลด์สกูล สุดคูล ที่ดูจะสวนทางกับหน้าที่การงานเล็กน้อย
จุดที่น่าสนใจจริง ๆ ไม่ใช่เพราะประธานาธิบดีถึงชอบแนวเพลงฮิปฮอป แต่มันคือการยอมรับและเปิดเผยตัวเองโดยไม่หลอกสายตาใคร แสดงความเป็นตัวเองออกมา ไม่จำเป็นต้องเก็บความชอบเอาไว้ นั่นคืออีกเรี่องที่เป็นจุดชื่นชมของโอบาม่า จนถึงทุกวันนี้
หรือคนสุดท้ายอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์แห่งวงการลูกหนัง เป็นหนึ่งคนที่ชัดเจนมาโดยตลอดเมื่อโดนถามถึงเพลงโปรดของเขา ซึ่งตกเป็นเพลง I Believe I Can Fly ของศิลปิน R.Kelly ซึ่งก็ไม่แปลกใจเพราะเส้นทางชีวิตก่อนที่จะมาเป็นนักฟุตบอลระดับโลกขนาดนี้ เชื่อได้เลยว่าไม่ง่าย
และเพลงนี้ก็เป็นเหมือนสิ่งสร้างแรงขับเคลื่อนให้กับตัวเขา ได้มีกำลังใจพุ่งทะยานไปในจุดสูงสุดแบบในเวลานี้ เปรียบเสมือนกำลังใจที่คอยอยู่เคียงข้างเขาตลอดเวลา
เห็นได้ชัดว่า บทเพลงขึ้นอยู่กับในทุกบทบาทของชีวิต นี่อาจเป็นเรื่องราวเล็ก ๆ ที่มักถูกมองข้ามเพราะใครก็มองว่าเป็นเพียงสิ่งบันเทิงในรูปแบบหนึ่งเท่านั้น
แต่ความเป็นจริง การที่เรามุ่งมั่นตั้งใจทำอะไรสักอย่าง ต่อให้คิดว่าแน่วแน่แค่ไหนก็มีโอกาสสะดุดกันทุกคน การมีบทเพลงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง จะช่วยประคองไม่ให้ล้มอย่างรุนแรง และช่วยผลักให้เรามีแรงสู้ต่อในบางทีด้วยซ้ำ
เช่นเดียวกันในด้านเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ก็จำเป็นต้องอาศัยเสียงดนตรีมาช่วยสร้างรายได้มากขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะถ้าคุณอยากจะหาเงินได้ในหลักมหาศาล และยิ่งได้ฟังเพลงที่ชอบ ดนตรีที่ใช่ ผลลัพธ์ที่อยู่ตรงหน้าจะไปถึงอย่างเพลิดเพลินและมีความสุข
ฉะนั้น ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้ แสดงว่าคุณน่าจะมีเพลงที่ถูกใจอยู่แน่ ๆ ให้จดจำและทำมันต่อไป แม้ทุกเพลงที่เราชอบ คนอื่นอาจไม่ชอบเหมือนกับเรา แต่ก็ปกติ เพราะแต่ละเพลงจะมีความพิเศษบางอย่างที่รอคนที่รู้สึกแบบเดียวกันมาค้นหาอยู่
เพราะทุกเพลง มักซ่อนใครคนหนึ่ง อยู่เสมอ..
..
อ้างอิง: dooddot.com
เรียบเรียงโดย: กฤตเมธ อันสมัคร
คอนเทนต์ครีเอเตอร์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก Freepik