หลาย ๆ คนมักจะสร้างข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเงิน บ้างก็มีความคิดว่า “มีเงินแล้วมันก็ต้องใช้ปะวะ” “เราหาเงินเพื่อสนอง Need อยู่แล้วปะวะ”
เราต่างมีข้อผิดพลาดในชีวิต หนึ่งในนั้นคือความผิดพลาดเกี่ยวกับการเงิน โดยเฉพาะวัยรุ่นที่จบใหม่หมาด ๆ มักจะใช้เงินจนหมดตัว ไม่มีเงินสำรอง สุดท้ายแล้วก็ต้องกลับไปขอเงินพ่อแม่อีก
แน่นอนว่ามีเงินแล้วมันก็ต้องใช้ แต่เราก็ต้องใช้โดยมีแบบแผนทางการเงิน นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เราควรจะมีการเรียนการสอนเกี่ยวกับการบริหารการเงิน เพราะเงินเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน หากเรามีโอกาสได้เรียนรู้วิธีการบริหารการเงิน เราก็จะอยู่รอดได้โดยปราศจากข้อผิดพลาด
ข้อผิดพลาดส่วนใหญ่ที่เราพบเห็นได้บ่อย ๆ ก็มีอยู่ด้วยกัน 3 ข้อ หากเรากำจัดข้อผิดพลาดเหล่านี้ได้ มันก็จะสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินเราได้เป็นอย่างดี
ข้อผิดพลาด #1 : เงินมีไว้ใช้
ใช่ เงินมีไว้ใช้นั้นถือเป็นเรื่องที่ถูกอยู่แล้ว เพราะกลไกง่าย ๆ ของเงินก็คือใช้มันในการชำระเงิน แต่ใช้เงิน 100% หรือใช้เงินเกินตัวนั้นมันไม่ดีต่อตัวเราหรอก
หากเราได้เงินเดือนมาแล้วเราใช้เงินเดือนจนเหลือแค่เหรียญหรือใช้จนหมดภายในเดือน มันจะส่งผลอันตรายต่อทั้งปัจจุบันและอนาคตของเรา
ชีวิตเรามักจะมีเรื่องไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้เสมอ แล้วเหตุการณ์ทุกอย่างมันก็ดันมาเกี่ยวข้องกับเรื่องของเงิน หากจู่ ๆ เราป่วย เราก็ต้องใช้เงินในการซื้อยา จู่ ๆ รถพัง ก็ต้องใช้เงินในการซ่อม แทบจะทุกอย่างในชีวิตเราเกี่ยวข้องกับการเงินทั้งนั้น
นี่คือเหตุผลสำคัญที่เราต้องให้ความสนใจเกี่ยวกับเงิน “เงินมีไว้ใช้” ก็จริงแต่ก็ “มีไว้เก็บ มีไว้เพื่อลงทุน” เช่นกัน หากเราประเมินเงินที่เราสามารถเก็บออมได้ เราก็จะสามารถคำนวณได้ว่าเงินที่เราต้องใช้ VS รายได้ทั้งหมด มันสมเหตุสมผลกับสภาพทางการเงินของเราไหม เราอาจจะคุมรายได้ของเราไม่ได้ แต่เราควบคุมการใช้เงินของเราได้
ข้อผิดพลาด #2 : สนอง Need
วัยรุ่นหลายคนคิดว่าเราใช้ชีวิตไปกับปัจจุบันและใช้เงินตามอารมณ์ ความรู้สึก ข้อผิดพลาดนี้แหละ มันจะทำให้เกิดความยากลำบากทางการเงินในอนาคต
ดูตัวอย่างง่าย ๆ : เดวิดเป็นเด็กจบใหม่ มีเงินเดือน 15,000 บาท เดวิดเห็นราคาหูฟังที่ขายอยู่เว็บลดราคาเหลือ 5,000 บาท เดวิดลังเลว่าจะซื้อดีไหม เดวิดตัดสินใจซื้อ เดวิดเหลือเงินใช้ในเดือนนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 10,000 บาท เดวิดต้องอยู่ในเดือนนี้ให้ได้โดยยังไม่รวมค่าหอ ค่าไฟ ค่าเดินทางที่ต้องเสีย
“ความสุข” ก็สามารถนำพาให้เรารู้สึกเสียใจในภายหลังได้ เพราะคุณต้องคิดถึงเงินที่เสียไป หากสิ่งที่เราต้องเสียไปเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้หรือต้องสนอง Need ของเราจริง ๆ คุณต้องมีเงินเก็บ และเงินนั้นก็ต้องมากพอที่จะสามารถซื้อและมีเงินเหลือไว้ให้ใช้ในสิ่งจำเป็นอื่น ๆ
วัยรุ่นหลายคนใช้ชีวิตอยู่ในเมือง ทำงาน และมีหอเล็ก ๆ จ่ายรายเดือน แต่ถ้าคุณใช้เงินไปจนหมด เมื่อไหร่คุณจะมีเงินเก็บและสร้างฝันไปกับเงินของคุณได้ล่ะ?
ข้อผิดพลาด #3 : ไม่มีแผน
ความคิดและทัศนคติที่ว่า “เงิน จะใช้เวลาไหน ที่ไหน ก็ไม่จำเป็นต้องวานแผนอะไรมากนักหรอก” เราอาจจะคิดว่าการใช้เงินคงไม่ต้องมีแผนอะไรมากนัก แต่ความจริงก็คือ เมื่อเราไม่มีการเตรียมตัว ไร้แผน นั่นคือการเตรียมตัวสำหรับความล้มเหลว
หากไม่มีการวางแผนทางการเงินล่วงหน้า สิ่งที่เราคาดไม่ถึงมันก็ไม่เกิดขึ้นหรอก เพราะเวลาไม่พอหรือทรัพยากรไม่พอในเวลานั้น นี่คือเหตุผลว่าทำไมในการเงินหรือการใช้จ่าย เราต้องมี Plan B เพราะ Plan B นั้นจำเป็นเสมอไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่คาดไม่ถึงอาจเกิดขึ้นในตอนที่เรามีความพร้อมหรือเกิดตอนที่เราไม่ได้เตรียมตัวก็ได้ Plan B จึงเหมือนเป็นเสื้อเกราะที่คอยปกป้องเรา เมื่อมีคนเข้ามาโจมตีเราซึ่ง ๆ หน้าหรือพยายามแทงเราข้างหลัง
แผนการเงินที่เตรียมไว้อย่างระมัดระวังจะทำให้เราติดตามอะไรได้ง่าย รู้ว่าอะไรเป็นอะไร รู้ว่าคุณไปที่ไหนและเป้าหมายของคุณอยู่ไกลแค่ไหน
สิ่งที่เราต้องทำคือการขจัดข้อผิดพลาดทั้ง 3 ข้อนี้ออกไป แต่เมื่อเราเคยทำพลาดมาแล้ว ก็ถือเป็นโอกาสดีที่เราจะได้เรียนรู้จากข้อผิดพลาด แต่เรามีตัวอย่างมากมายที่ทำให้เราได้เห็นข้อผิดพลาดของคนอื่น เหมือนกับที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า
“การเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของเราเป็นสิ่งที่ดี การเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของคนอื่นนั้นเป็นสิ่งที่ดีกว่า”
…
เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก : Freepik.com