ในโลกยุคใหม่ที่ความสำเร็จเข้ามาอย่างรวดเร็ว คนมากมายต่างแข่งกันที่จะเจอเส้นทางหารายได้เป็นของตัวเอง และความฝันคงเป็นการมีธุรกิจหรือกิจการเป็นของตัวเอง
เพราะสมัยนี้การจะให้เป็นพนักงานเงินเดือนทั่วไปคงจะไม่ใช่ตัวเลือกลำดับแรก แต่ในทางเดียวกัน ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเปิดกิจการเป็นของตัวเองได้ เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่าง
ก็จึงเกิดคำถามบ่อยครั้งในวัยเรียนว่า
“แล้วเรียนอะไรถึงจะได้เป็น CEO”
คำถามนี้เป็นอะไรที่ตอบยากมาก แม้ว่าหลักๆคงคิดว่าเป็นการบริหาร แต่ในสถานการณ์จริง แค่มีทักษะการบริหารอย่างเดียว ไม่เพียงพอที่จะทำให้โปรเจ็กต์ที่จะเริ่มสำเร็จ
ในทางทฤษฎีก็อาจจะใช่ เพราะการรู้กระบวนการขั้นตอนบริหารอย่างดี ก็มีโอกาสจะควบคุมเส้นทางต่างๆโดยง่าย
ลองมาดูเหล่า CEO ระดับโลกมากมายว่าพวกเขาจบอะไรกันมาถึงได้สร้างตัวตนให้ประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้
Satya Nadella CEO จาก Microsoft จบการศึกษาปริญญาตรีด้านวิศวกรรมไฟฟ้า
Tim Cook CEO ของ Apple จบการศึกษาปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ และ วิศวอุตสาหการ
หรือจะเป็นเจ้าพ่อคอนเทนต์อย่าง Elon Musk จาก Tesla ก็จบการศึกษาด้านวิศวกรรมเช่นกัน ซึ่งยังมีอีกมากมายหลายคนที่จบมาในด้านที่ตัวเองสนใจ
แม้หลายคนจะจบมาในสายที่ตัวเองสนใจและถนัด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามีหลักสูตรตายตัว และการันตีว่าจะเป็น CEO แบบร้อยเปอร์เซ็นต์
โดยคนเหล่านี้ไม่เคยตั้งคำถามเลยด้วยซ้ำว่าต้องเรียนอะไร ถึงจะประสบความสำเร็จ เพราะนั่นไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง ก่อนจะตัดสินใจเรียนอะไร ขึ้นอยู่กับว่าเรารู้จักตัวเองแค่ไหน
นี่ต่างหากคือสิ่งที่สำคัญ เพราะเป้าหมายในชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน จึงไม่ควรเอาเส้นทางชีวิตใครเป็นต้นแบบ เพียงแต่เอามาเป็นแรงบันดาลใจก็ดูจะสวยกว่า
ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าการลงทุนนั้นมีความเสี่ยง ในการสร้างธุรกิจเพื่อไต่เต้าสู่จุดสูงสุดก็เสี่ยงเช่นกัน ต่อให้วางแผนเท่าไหร่ โอกาสในการมีความเสี่ยงก็ยังคงไม่หายไป
ด้วยเหตุนี้จึงต้องสำรวจตัวเองก่อน ว่าเรามีอะไรบ้าง
อย่างแรกคือการยอมรับความเสี่ยงให้ได้ หลายคนคิดว่าตัวเองทำได้ แต่ความเป็นจริงกลับทำไม่ได้ ไม่ง่ายที่จะยอมรับความล้มเหลว แต่อยากให้รู้ไว้ว่า ทุกคนต้องล้มมาก่อนทั้งนั้น
ความเสียหายคือเรื่องที่ต้องเจอ จุดสำคัญอยู่ตรงที่ใครจัดการกับความเสียหายได้ดี แล้วเดินหน้าต่อได้ก่อนกันต่างหาก เพราะบางครั้งไม่ต้องลืมความล้มเหลวก็ได้ แค่ลองเอาสิ่งเหล่านั้นมาพัฒนาเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีกครั้งจะดีกว่า
อีกลักษณะนิสัยที่สำคัญและปฏิเสธไม่ได้ว่านี่จำเป็นต่อการทำงานคือการมีทักษะการสื่อสารที่ดี ต่อให้งานนั้นจะเป็นแบบไหนก็ล้วนจำเป็นในการสารสัมพันธ์ที่ดี
ยิ่งในระดับสูงแล้ว เป็นที่รู้กันดีว่าคอนเนคชั่นคือเรื่องลำดับต้นๆ ที่สำคัญต้องคำนึงถึงความพึงพอใจคนรอบข้างเป็นสำคัญ ต่อให้เป็นเจ้านายหรือลูกน้องก็สำคัญทั้งนั้น
มากไปกว่านั้น การจะเริ่มเข้าสู่วงการ Cloud Kitchen แม้ข้อดีจะมีพอสมควรทั้งลดต้นทุน ลดทรัพยากร ลดจำนวนพนักงาน แต่สิ่งเหล่านี้ที่กล่าวมาก็สำคัญ
และเมื่อถึงจุดหนึ่งไม่ว่าร้านอาหารของเราจะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน สิ่งที่ทุกคนต้องเจอคือการหมดไฟ รู้สึกว่าทำไปทั้งที่หาเป้าหมายไม่เจอ ทำไปอย่างนั้น
ดังนั้นเราควรหาเป้าหมายตลอดเวลา ซึ่งจะดีมากถ้าตอนก่อนจะเริ่มต้นเราลองตั้งแผนระยะยาวดูสักตั้ง อย่างเช่นถ้ายอดขายถึงเท่านี้ ควรเพิ่มเติมตรงไหน หรือพัฒนาอะไรให้ดีกว่าเก่า
ถ้าในเมื่อเราไม่หยุดพัฒนาตัวเองก็จะเรียนรู้อะไรอีกมาก เพราะต่อให้เริ่มต้นและประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว ก็ยังต้องพัฒนาตัวเองและสินค้าให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นไปอีก
ความแน่วแน่ทะเยอทะยานคือสิ่งที่ดี แต่ถ้าขาดการจัดการก็ไม่เกิดประโยชน์สูงสุด ต้องรอบคอบและมั่นคงในการตัดสินใจ พร้อมกับมีความฉลาดทางอารมณ์ด้วย
และสุดท้ายก็ย้อนกลับมาที่ Mindset อีกครั้ง แม้จะเป็นเรื่องที่พูดบ่อย นั่นมาจากว่านี่คือสิ่งสำคัญ และในระดับผู้บริหารหรือคนที่อยากพัฒนาตัวเอง จะต้องคิดแตกต่างจากคนทั่วไป
คือการคาดการณ์ล่วงหน้าไว้เสมอ วิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลคือเหตุผลที่บอกว่าเราคือคนที่พร้อมหรือยังในการเป็นผู้บริหาร ต้องวางแผนแก้ไขสถานการณ์ หรือมีแผนสองเสมอเพื่อป้องกันการรับแรงกระแทกจากสิ่งต่างๆที่มองไม่เห็นในอนาคต
คุณสมบัติเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องมีต้นทางอย่างไร เรียนที่ไหน หรือเติบโตมาอย่างไร แต่ขึ้นอยู่กับว่าต้นทุนความรู้ที่มีนั้นคืออะไร เพราะในเมื่อแต่ละคนไม่เหมือนกัน ก็เป็นงานไม่ยากที่จะสร้างความโดดเด่นของตัวเองให้แผ่ออกมากว่าคนอื่น
ที่สำคัญไม่จำเป็นต้องแค่ธุรกิจอาหารเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแบบใดก็ต้องใช้การเรียนรู้ตัวเองมาเป็นลำดับแรก เพราะไม่ใช่ประเภทธุรกิจจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของเรา
แต่ต้นทุนที่เรามีมาต่างหากที่จะบอกได้ว่าเราเหมาะสมกับสิ่งไหนที่สุด บางทีการตั้งขอบเขตมากเกินไปก็ทำให้ถูกกำหนดมุมมองให้แคบกว่าที่ควรจะเป็น
ควรต้องเริ่มปล่อยใจและหาข้อดีของตัวเองให้เจอ จากนั้นหาคาแรคเตอร์และใส่ลงไปในชิ้นงานของเรา ในคอนเซ็ปต์ร้าน การตกแต่ง หรือสไตล์ก็ตามแต่
เพราะอะไรที่มาจากต้นทุนจากตัวเราเอง ก็จะเป็นอะไรที่เสถียรและยั่งยืนมากที่สุด ยากที่ใครจะทำเลียนแบบได้ด้วย
เมื่อเจอแล้วเก็บสิ่งนั้นไว้ให้ดี เพราะสิ่งนี้จะทำให้มูลค่าของเรานั้นสูงขึ้น และต่อไปไม่ว่าจะเริ่มต้นทำอะไร ก็จะเป็นไปในแบบที่พิเศษโดยที่ไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน.
…
ภาพประกอบจาก : Pexels
ที่มาจาก Fanpage : CEO Restaurant