ทำไมหลายคนถึงชอบคิดว่าการค้าขายเป็นเรื่องง่าย จะไปยากตรงไหนกัน แค่มีทุนและรู้ว่าคนส่วนมากต้องการอะไรเท่านั้นก็พอ ทั้งที่จริงแล้ว มันไม่ใช่อย่างนั้นแม้แต่นิดเดียว
เวลาที่เราไปเดินตลาดหรือห้างสรรพสินค้าเพื่อสำรวจว่าสินค้าอะไรกำลังเป็นที่ต้องการ อะไรคือสิ่งที่ขาดตลาด หรือแม้แต่อะไรคือสิ่งที่ผู้คนมักไม่ค่อยให้ความสนใจ
สิ่งที่ได้กลับมาจะเป็นความนิยมในปัจจุบัน รวมถึงสถิติตัวเลขทั้งหลายเพื่อเอามาปรับใช้ในธุรกิจของตนเอง จริงอยู่ว่าประโยชน์ คือ ทำให้รู้ว่าสถานการณ์การตลาดตอนนี้เป็นอย่างไร เพื่อจะได้รับมือและทำสินค้าที่เราจะขายให้ถูกใจตลาด
เรื่องราวที่ว่ามาเป็นสิ่งที่หากใครกำลังจะเริ่มธุรกิจควรต้องรู้ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด นี่เป็นเพียงข้อมูลในด้านของการขาย แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น สิ่งที่ควรจะต้องรู้อีกอย่าง นั่นคือ กระบวนการซื้อ
ทำไมกระบวนการซื้อ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องรู้?
ถ้าในมุมของคนทำธุรกิจ เป้าหมายใหญ่ที่ต้องการมากที่สุดแน่นอนว่า คือ กำไร รวมไปถึงการได้รับความนิยมของสินค้านั้นๆ เพื่อที่สุดท้ายก็จะขยายไปสู่ยอดขายที่มากขึ้นอยู่ดี
เช่นเดียวกัน ในมุมของลูกค้าหรือผู้ซื้อ พวกเขาก็ต้องการได้สินค้าที่คุ้มค่า คุ้มราคา ด้วยเหมือนกัน คงไม่มีใครยอมจ่ายแพง แต่ได้ของมาในคุณภาพที่สวนทางกัน
บางทีก็เป็นคำพูดติดตลกที่ว่า “ของถูกและดีนั้นไม่เคยมีอยู่จริงหรอก” เพราะทุกอย่างต้องมีต้นทุน ยิ่งราคาสูงก็อาจแสดงว่าวัตถุดิบหรือขั้นตอนบางอย่างก็ต้องดีขึ้นตามไปด้วย
จึงเกิดเป็นความคาดหวังว่าเมื่อฉันจ่ายแพงขึ้น ก็ต้องได้อะไรที่มากขึ้นด้วย จุดนี้ก็จะส่งผลให้สินค้าหลายอย่างมีการตอบรับที่ดี เนื่องจากเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น
จะเห็นว่าไม่ใช่แค่สักแต่จะขายลูกเดียว ต้องเข้าใจและตอบสนองสิ่งที่ลูกค้าต้องการให้ได้ แล้วการสรรหาปัจจัยนี่แหละจะเป็นข้อแตกต่างของธุรกิจแต่ละอย่างที่อาจขายสินค้าประเภทเดียวกัน แต่รายได้ไม่เท่ากัน
เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ลองสมมุติและจำลองสถานการณ์พาตนเองมาอยู่ในช่วงเวลาที่กำลังหิวมาก ฝั่งหนึ่งคือร้านก๋วยเตี๋ยวที่หน้าร้านตกแต่งดูดีเป็นระเบียบ มีป้ายบอกทางเข้าชัดเจน โต๊ะเก้าอี้เมื่อมองจากระยะไกลก็ดูสะอาดสะอ้าน
กับอีกฝั่งที่หน้าร้านมีต้นไม้ปกคลุมเต็มไปหมด ใบไม้ระโยงระยางจนมองเข้าไปในร้านแทบจะไม่ได้ ป้ายหรือโต๊ะเก้าอี้ก็ดูเก่า ทางเดินก็ลำบาก แบบนี้คิดว่าควรจะเลือกร้านไหนดี?
เพราะแบบนี้ จัดการหน้าร้านจึงละเลยไม่ได้
หลายคนคงต้องเลือกร้านที่ดูน่าเข้ามากกว่า โดยไม่รู้หรอกว่าสุดท้ายรสชาติหรือคุณภาพจะเป็นอย่างไร ถึงต่อให้ร้านลับนั้นจะรสชาติดีและต้นตำรับมากกว่า แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งแรกที่มีผลต่อการตัดสินใจคนส่วนใหญ่ คือ หน้าร้าน
นี่คือปัจจัยที่ทำให้ยอดขายเปลี่ยนแปลงได้จากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อหน้าร้านดูดีไม่ใช่แค่ง่ายต่อการมองเห็นเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการใส่ใจของเจ้าของร้านที่ลูกค้าสัมผัสได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องรู้ว่าเจ้าของร้านเป็นใคร หรือหน้าตาแบบไหน
ความหมายของหน้าร้านไม่ใช่หมายถึงแค่หน้าร้านจริง ๆ แต่ในโลกออนไลน์ก็สำคัญ ต่อให้จะย้ายไปอยู่ในช่องทางไหน ก็ต้องสร้างภาพลักษณ์ให้เป็นไปในทางเดียวกัน เพื่อเป็นที่น่าจดจำ
ยิ่งมีการจัดการระบบที่ดีก็ยิ่งน่าประทับใจ ลองคิดดูว่า หากเราเข้าไปในร้านอาหารแล้วนั่นก็หมด นี่ก็หมด คงเสียอารมณ์น่าดู ทีนี้ขึ้นอยู่กับการจัดการของแต่ละร้านได้ดีแค่ไหน
ทำไมร้านใหญ่ ๆ หรือแบรนด์สินค้าระดับท็อป ถึงต้องมีการจองล่วงหน้า ก็เพราะพวกเขาไม่ต้องการเห็นลูกค้าเกิดความผิดหวังต่างหาก แล้วอะไรจะรับประกันเรื่องเหล่านี้ได้ดีกว่าการเข้าใจกระบวนการ สต็อกสินค้า อย่างถูกต้อง
สต็อกสินค้า เพื่อไม่ทำลายน้ำใจของลูกค้า
ไม่ว่าจะเริ่มทำธุรกิจประเภทใดก็ตาม สิ่งที่ต้องทำไม่ใช่แค่ต้องสต็อกสินค้าอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ต้องรู้ว่าในระบบมีสิ่งเหล่านั้นจำนวนเท่าไหร่ เพื่อง่ายต่อการคำนวณแล้วนำมาขายให้ลูกค้าได้ในปริมาณที่เหมาะสม มากเกินไปก็เกิด Dead Stock ขึ้นได้ เพื่อให้เงินทุนไม่จมหายไปดื้อ ๆ จึงต้องให้ความสำคัญ
ความรู้ในการจัดเก็บและตรวจเช็คสินค้าที่มี คือ เทคนิคติดตัวที่ต้องพกไว้เสมอ แล้วในยุคแบบนี้มีหลายช่องทางที่ลงข้อมูลรายละเอียดได้แม่นยำ จะมานั่งนับคงไม่ทันใช้งานพอดี
เครื่องมือต่าง ๆ แบบนี้ก็ต้องเรียนรู้ ควบคู่ไปกับการจัด รายรับ-รายจ่าย ด้วยเลยยิ่งดี ในช่วงหนึ่งของความสำเร็จ การรับมือคือสิ่งที่จะเข้ามาทดสอบใครหลายคน
เกิดวันไหนที่ลูกค้าเข้าร้านมากกว่าปกติ แล้วรับมือไม่ดี หรือดูแลไม่ถูกต้อง จากโอกาสทองในการขาย จะเป็นโอกาสทองในการสร้างความทรงจำในแง่ลบได้เหมือนกัน
การรับมือต้องเกิดจากเรียนรู้ในประสบการณ์ เราไม่อาจสามารถสร้างความประทับใจให้ทุกคนได้ แต่เราสามารถที่จะไม่สร้างความผิดพลาดให้เกิดขึ้นได้ ดังนั้น นี่จึงเป็นเรื่องที่ต้องจัดการให้ดี พยายามไม่ให้เกิดขึ้นมากที่สุด
เพราะแน่นอนว่าใครก็ต้องหวังกำไร แต่ขึ้นอยู่กับว่ามีวิธีการอย่างไรในการเพิ่มรายได้ตรงนี้ จะเข้าไปหาลูกค้า หรือจะสร้างมูลค่าและชี้ให้เห็นความสำคัญของสินค้าของตนเอง แล้วรอให้ลูกค้าตัดสินใจเข้ามาหาเรา ก็ขึ้นอยู่กับวิธีคิดแต่ละคน
จริงอยู่ว่าการจะทำธุรกิจได้ดีคือการเข้าใจวิธีการขาย แต่สิ่งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้ายังไม่เข้าใจในวิธีการซื้อ สิ่งที่น่าสนใจ คือ ทุกคนมีการตัดสินใจในแบบของตัวเอง อยู่ที่ว่าเจ้าของธุรกิจแต่ละคนจะมีวิธีอย่างไรให้คนส่วนใหญ่ตัดสินใจเลือกสิ่งที่เรามี.
.
เรียบเรียงโดย: กองบรรณาธิการ 7D Book&Digital