สำหรับธุรกิจ ไม่เคยมีแผนเดียว

รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ความหมายของสำนวนนี้คือการย้ำเตือนสติให้รู้จักมองเรื่องต่างๆอย่างลึกซึ้งอยู่เสมอ เพราะถ้าเรารู้มากเท่าไหร่ก็จะได้เปรียบผู้อื่นมากเท่านั้น

 

สำหรับธุรกิจสำนวนนี้มักถูกหยิบขึ้นมาใช้อยู่บ่อยครั้ง เพราะในมุมเจ้าของกิจการยิ่งรู้มากยิ่งดี ยิ่งเข้าใจฝ่ายตรงข้ามหรือคนรอบข้างยิ่งทำให้รู้ว่าปรับตัวไปทิศทางไหน

 

มีใครบางคนบอกเอาไว้ว่า การที่จะเริ่มธุรกิจอะไรสักอย่าง จะต้องรู้จักการต่อยอด สร้างสรรค์ เพื่อให้ดูแตกต่าง จะได้ไม่ถูกผู้นำตลาดเดิมกลืนกินไปในที่สุด

 

แต่จะเริ่มแบบ ไม่มีพื้นฐานเลยไม่ได้ ต้องอาศัยระยะเวลาและทุนในการจะให้คนยอมรับ พอประสบความสำเร็จจนเป็นที่ยอมรับแล้ว ก็มาเจอปัญหาในแบบอื่นอีกอยู่ดี

 

ทำให้ถ้าไม่แน่นอนและแข็งแรงมากพอ สุดท้ายต่อให้จะเป็นคนคิดค้นหรือต้นตำรับสักแค่ไหนก็มีโอกาสที่จะถูกกลืนกินให้หายไปเข้ากลีบเมฆและต้องยอมพ่ายแพ้ให้ธุรกิจใหม่ในที่สุด

 

การแข่งขันคือสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ เพราะทุกคนคงต้องการความสำเร็จ คงรอคอยการยอมรับจากคนส่วนใหญ่อยู่เหมือนกัน ทำให้ไม่มีใครอยากที่จะหยุดพัฒนา

 

ถึงจะบอกว่ามุมดีคือการได้มีอะไรใหม่ๆ ทั้งไอเดีย คอนเซ็ปต์ ให้ทุกอย่างก้าวล้ำสมัยไปตลอดเวลา แต่ด้วยวิธีการเหล่านี้ก็กำจัดคนที่ตั้งใจไปได้หลายคนพอสมควร

 

ฉะนั้นเมื่อมาย้อนดูกันอย่างละเอียดแล้ว สิ่งที่เจ้าของธุรกิจหน้าใหม่จะทำได้ ไม่ใช่ภาวนาให้เจ้าของธุรกิจคนอื่นหยุดพัฒนาตัวเอง แต่ควรต้องเป็นการเตรียมตัววางแผนรับมือกับอะไรที่พร้อมจะเกิดในทุกวินาที เพื่อไม่ให้ธุรกิจของตัวเองตกเป็นรองผู้อื่นมากจนเกินไป

 

 

ความได้เปรียบจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าปราศจากการวางแผนอย่างรัดกุม ก่อนทำศึกสงครามแม่ทัพของแต่ละฝ่ายยังต้องมีแผนว่าจะบุกทางไหน แล้วถ้าพลาดท่าจะหลบหนีทางไหน

 

ธุรกิจก็ไม่ได้หนีกันเท่าไหร่ ดีไม่ดีการทำธุรกิจยิ่งกว่าสมรภูมิรบอีกด้วยซ้ำ เพราะในสนามรบยังมีเวลาได้พัก ได้เตรียมเสบียง แต่ธุรกิจไม่มีเวลาแบบนั้น ทุกนาทีมีค่ามากที่สุด ใครคิดอะไรใหม่ได้ก่อนแล้วลงมือทำก่อนก็จะได้เปรียบอยู่เสมอ

 

แผนธุรกิจควบคู่ไปกับการใช้กลยุทธ์ ซึ่งก็มีหลากหลายตามรูปแบบที่ต่างกันไม่ว่าจะเป็น 4P ,4M หรือแม้แต่หลักพื้นฐานอย่าง SWOT เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยบอกทิศทางในการจัดหมวดหมู่ให้เข้าใจกระบวนการธุรกิจมากขึ้น

 

นอกเหนือจากนั้น ทุกแผนงานจะต้องสอดรับกับเป้าหมายองค์กร ดังนั้นจึงต้องตั้งเป้าที่ชัดเจนก่อน แล้วจึงค่อยลงมือตามทางที่ได้ขีดเส้นเอาไว้ก่อนหน้านี้

 

สิ่งที่ยากในการทำธุรกิจคือการทำให้เป้าหมายของทุกคนในองค์กรเป็นไปในทางเดียวกัน เพราะแบบนี้ทุกการประชุมจึงสำคัญ สังเกตจากองค์กรที่สำเร็จจะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างเข้มข้นและทุกคนมีสิทธิ์ที่จะนำเสนอ

 

แต่ด้วยค่านิยมและอะไรหลายๆอย่างในบ้านเราอาจไม่ส่งเสริมทางนั้นเท่าที่ควร ในมุมพนักงานเองก็กลัวจะออกความเห็นแล้วไม่ถูกใจ จึงต้องหมั่นพูดคุยกันอยู่เสมอเพื่อสุดท้ายผลจะอยู่ที่ผลลัพธ์ทางธุรกิจอยู่ดี

 

อย่างที่บอกไปว่าการวางแผนคือโครงสร้างสำคัญในทุกขั้นตอน และจะขาดแผนการตลาดไปไม่ได้ จะทำธุรกิจทั้งทีต้องรู้ว่าจะขายอย่างไรให้เข้าเป้ามากที่สุด

 

เหมือนกับจะทำร้านคาเฟ่ แต่เป้าหมายก็ไม่ชัดเจน เมนูก็หลากหลายเกินไป การตกแต่งก็ฟิวชั่นจนยากที่จะเข้าใจ ก็อาจทำให้กลุ่มเป้าหมายมีการคลาดเคลื่อนแล้วไม่ชัดเจน

 

 

ต้องรู้ว่าจะทำในระบบไหน มีแผนโปรโมทสินค้าอย่างไร แล้วของสิ่งนั้นจำเป็นต่อกลุ่มเป้าหมายจริงไหม และต้องแตกต่างด้วย ถามว่าเพราะอะไรทำไมต้องแตกต่างตลอดเวลา ก็ถ้าเราขายเหมือนกับคนอื่นหรือเจ้าใหญ่ที่มีอยู่แล้ว ถามหน่อยว่าลูกค้ามีความจำเป็นอะไรต้องมาซื้อเรา ในเมื่อมีเจ้าที่น่าเชื่อถือ อยู่มาอย่างยาวนาน และได้มาตรฐานดีอยู่แล้ว

 

โดยเฉพาะใครที่กำลังมองหาช่องทางสร้างธุรกิจคาเฟ่ ถามว่าทุกวันนี้มีมากขึ้นจริงไหม?ก็ใช่ แล้วแบบนี้การตลาดจะไปได้สวยเหรอ ในเมื่อใครๆก็ทำคล้ายกัน

 

จุดน่าสังเกตอยู่ตรงนี้ เป็นเวลาพอสมควรที่ผู้คนเริ่มให้ความนิยมร้านนั่งชิลล์ จิบเครื่องดื่ม คุยงาน นัดแฟน หรือรอเพื่อนก็ตาม จริงอยู่ที่มีหลายร้านเจ๊งไปตามระเบียบ แต่ขณะเดียวกันก็มีร้านเปิดใหม่ขึ้นแทบจะทุกแหล่งชุมชน ยิ่งย่านในเมืองแทบจะเปิดร้านติดกันเลย

 

ตรงนี้ทำให้มองได้ว่าก็เพราะความต้องการที่ยังไม่เคยลดลง หรืออาจเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ ทำให้หลายคนเลือกจับธุรกิจคาเฟ่อยู่เรื่อยๆ เพราะมองเห็นถึงโอกาสสร้างรายได้ สร้างความสำเร็จได้ ถึงจะคู่แข่งเยอะ แต่ลูกค้าก็เยอะขึ้นไม่แพ้กัน

 

เพราะแบบนี้ทำให้ธุรกิจให้สำเร็จนั้นไม่ยาก ถ้ารู้วิธีการและการวางตัวเป็นอย่างดี ความแตกต่างต้องต่างอย่างมีสไตล์มีคุณภาพ ไม่ใช่คิดจะต่างแต่ไม่มีเหตุผลมารองรับเลยก็ไม่ได้

 

ท้ายที่สุดว่าด้วยเรื่องแผนการเงิน ต่อให้นี่คือสิ่งที่เป็นเป้าหมายหลัก แต่หลายคนก็ยังละเลยและเข้าใจแบบผิดๆ เพราะแผนการเงินไม่ใช่แค่ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย แต่ต้องรู้ถึงที่มา วิธีการจัดการ ใช้เท่าไหร่ แบ่งกำไรอย่างไร ต่างๆนี้คือรายละเอียดที่ต้องใส่ใจ ถึงขั้นที่บางทีต้องจ้างนักทำบัญชีมาจัดการเงินให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อความแม่นยำ

 

ส่วนประกอบต่างๆจากหลายฝ่ายประกอบกันจนทำให้ธุรกิจเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ แผนที่แข็งแรงยังไม่เท่ากับแผนงานที่ครอบคลุมได้เป็นอย่างดี

 

เขาถึงบอกกันว่าการสร้างธุรกิจนั้นไม่ยาก แต่การจัดการสิ่งต่างๆคือเรื่องไม่ง่าย ต้องดูภาพรวม วิเคราะห์ความเป็นไปได้ ประเมินผลงาน และแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า

 

ทำงานหลายหน้าสิ่งที่ตามมาคือความสับสน บางทีต้องดูเรื่องนั้น ลืมเรื่องนี้ จัดการอันนั้น แต่ไม่ได้ใส่อันนี้ หน้าที่ของเจ้าของธุรกิจคือต้องเชื่อมโยงทุกเรื่องให้สามารถดำเนินต่อไปได้ด้วยดี

 

สรุปภาพรวมคือหากอยากจะมีธุรกิจต้องมีแผนเอาไว้ในทุกขั้นตอนอย่างรัดกุม เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ดี มองจุดแข็งให้เจอและมองจุดอ่อนอย่างเข้าใจ

 

ไม่มีใครสำเร็จได้ในครั้งเดียว ต้องฝ่าฟันอุปสรรคก่อนจะยิ่งใหญ่ เพราะความร่ำรวยจะอยู่ไม่นาน แต่ความยั่งยืนจะอยู่ตลอดไป

 

…

 

เรียบเรียงโดย: กองบรรณาธิการ 7D Book&Digital