“ไม่ใช่เห็นใครทำอะไรสำเร็จ ก็จะทำตามทุกครั้งไป บางครั้งเรียนรู้ที่จะสร้างวิธีการเป็นของตัวเองบ้าง ก็จะเข้าใจแนวทางในกระบวนการของธุรกิจมากยิ่งขึ้น”
ถ้าในหนึ่งห้องเรียนทุกคนมีความฝันที่เหมือนกัน คือ อยากเป็นหมอ คิดว่าในอนาคตทุกคนจะได้เป็นหมอที่สมใจไหม? แน่นอนว่าคำตอบก็อาจจะลงเอยด้วยคำว่า…ไม่
แต่ถ้าถามกลับกันว่า คิดว่าทุกคนในห้องนี้จะประสบความสำเร็จในอนาคตได้หรือไม่? คำถามนี้คงตอบได้ง่ายกว่า เพราะนี่คือสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้มากกว่า
ด้วยอะไรหลายอย่างที่ทำให้ความฝันของทุกคนกับความเป็นจริงอาจไม่ได้ไปด้วยกัน แต่สิ่งสำคัญคือการอยู่กับเป้าหมายปัจจุบัน และพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่ นี่อาจเป็นสิ่งล้ำค่าที่มากกว่าการไปถึงความฝันก็เป็นได้
ต้องยอมรับว่าตอนนี้เราทุกคนอยู่ในโลกที่การพัฒนาอย่างก้าวไกล ทุกสิ่งอย่าง ทุกวงการ มีทิศทางที่จะเติบโตไปข้างหน้าแทบจะทุกวินาที ไม่เว้นแม้แต่ความคิดของคน
เมื่อความสำเร็จต่างล่องลอยอยู่ในทุกหนแห่ง ในออนไลน์เองทุกคนก็มักจะอวดความสำเร็จในแต่ละก้าวของชีวิต ถ้าเห็นบ้างก็รู้สึกน่ายินดี แต่พอเจอบ่อยเข้า หลายคนจะเปลี่ยนมาเป็นความกดดันตัวเอง ว่าทำไมเราถึงเป็นแบบนั้นบ้างไม่ได้?
ทันทีที่รู้ตัวคนนั้นก็ถูกกลืนกินไปด้วยตัวตนของคนอื่นแล้ว อยากมีแบบคนนั้น อยากได้แบบคนนี้ จนสมองเกิดการจดจำ และเปลี่ยนเป้าหมายเหล่านั้นมาเป็นเป้าหมายของตัวเอง
ทั้งที่จริงแล้ว หลายคนอาจจะไม่ได้อยากได้หรืออยากมีแบบนั้นเลย เพียงแต่สังคมแวดล้อมให้เข้าใจไปในทางนั้น จนสุดท้ายก็ไม่พ้นที่จะลอกเลียนแบบวิธีการต่างๆของคนอื่น ทั้งวิธีทางธุรกิจ วิธีการปฏิบัติ หรือแม้แต่วิธีการใช้ชีวิต
คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ
สิ่งที่ธุรกิจปัจจุบันต้องสนใจ คือ การสร้างตัวตนให้เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แล้วอะไรจะช่วยได้ดีที่สุด ถ้าไม่ใช่เครื่องมือทางด้านออนไลน์ และบรรดาสื่อโซเชียลต่าง ๆ
หลายคนมักใช้วิธีในการเริ่มต้นจากการเลียนแบบผู้อื่น ซึ่งไม่ผิดอะไรเพราะหลายความสำเร็จของแบรนด์ชั้นนำก็เริ่มต้นมาจากความคิดในลักษณะทำนองนี้
เพราะยิ่งไม่รู้อะไรเลย ก็ต้องยิ่งหาแบบแผนจากคนที่อยู่มานานกว่าเพื่อเป็นหลักและดำเนินการตามอย่างถูกต้อง แต่เมื่อเป็นแบบนี้นานเข้า หลายคนลืมที่จะเรียนรู้ และตั้งตาที่จะลอกเลียนแบบอย่างเดียว นี่ต่างหากคือจุดอ่อนที่น่ากลัวที่สุด
และนั่นแสดงถึงการไม่มีเป้าหมายของตัวเอง เมื่อไม่รู้จักวางเป้าหมายที่ชัดเจน หลายคนที่ทำธุรกิจคงรู้ดีว่าจุดจบของใครที่คิดแบบนี้ ก็คงจะหมดมุขในสักวัน และเจ๊งหายไปเอง
เป้าหมายที่ทุกธุรกิจมีเหมือนกันคือ “กำไร” แต่เป้าหมายที่ธุรกิจที่ยั่งยืนและจะสำเร็จได้เขามีกัน คือ การคำนึงถึงสิ่งรอบข้าง ทั้งผู้บริโภค สภาพแวดล้อม รวมไปถึงธรรมชาติ
เป้าหมายที่ถูกต้องจะสะท้อนกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดออกมา ยกตัวอย่าง มีหลายธุรกิจที่จะสะท้อน“ความรับผิดชอบต่อสังคมของธุรกิจ” และสนใจสิ่งรอบข้างเป็นหลัก
เมื่อมีจุดยืนแล้วก็จะนำไปสู่แนวทางที่เนรมิตด้วยตนเอง ความลับของการทำตลาดออนไลน์ไม่ใช่แค่ต้องทำโพสต์ให้เหมือนคนอื่น หรือคอนเทนต์ในลักษณะใกล้เคียงกัน
แต่ขึ้นอยู่กับ Key Word นั้นสำคัญที่สุด เพราะลองคิดว่าถ้าเราสงสัยหรืออยากรู้อะไรสักเรื่อง เราจะทำอย่างไร? และใช่ เราก็จะพิมพ์คำถามนั้นลงไปในโลกออนไลน์ต่างๆ
คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ
ที่น่าทึ่งคือในโลกออนไลน์ก็พร้อมจะตอบทุกคำถามที่อยากรู้ อาจไม่ตอบโดยตรงในบางครั้ง แต่ก็จะนำพาอะไรที่เกี่ยวข้องเข้ามาเสิร์ฟคุณอยู่เสมอ นั่นคือจุดเด่นของยุคสมัยนี้
แล้วถ้าเกิดคุณกำลังทำธุรกิจร้านอาหารอยู่ คิดว่าคำไหนจะทำให้ผู้คนพบเจอคุณได้มากขึ้น อาจจะเป็น “หิว” “ร้านอาหาร” “พิกัด” “อร่อย” และอีกมากมาย เหล่านี้แหละคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้หลายธุรกิจได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม
คือการหา Keyword ให้ตรงกับการค้นหาของผู้บริโภคยังไงล่ะ แต่ก่อนจะรู้ได้ ไม่ใช่แค่นึกหรือเดาขึ้นมา เท่านั้นไม่พอ ต้องมาจากการศึกษาในคอนเทนต์หมวดหมู่เดียวกัน ดูว่าอะไรในตลาดที่คนสนใจอยู่ และเรื่องไหนที่กำลังเป็นที่พูดถึง
ไม่มีใครบอกได้ว่าต้องเริ่มต้นจากที่ไหน สิ่งที่สำคัญกว่าคือต้องเริ่มจากการสังเกต จากนั้นก็ศึกษาอย่างลงลึก แล้วความขวนขวายจะพาไปเจอคำตอบที่อยากรู้เสมอ
เป้าหมายที่กว้างเกินไปก็จะทำให้แนวทางไม่ชัดเจน ส่วนเป้าหมายที่เล็กเกินไปก็อาจขัดขวางการเติบโตอย่างที่ควรจะเป็น ความยากคือหาเป้าหมายที่ตอบโจทย์มากที่สุด รวมถึงจะต้องไม่ใช่สิ่งที่เกินจริง ทุกอย่างต้องเกิดขึ้นได้
ความเป็นไปได้ถึงเป็นสิ่งที่ทุกองค์กรจะต้องมั่นใจว่าเป้าหมายของตัวเองจะเกิดขึ้นได้จริง เพราะถ้าธุรกิจเพิ่งเข้าที่แต่หวังว่าจะได้กำไรมหาศาลในไม่กี่เดือนเลย ก็ดูจะเป็นไปได้ยากสักหน่อย
แต่อย่างที่บอกไปอะไรก็เกิดขึ้นกับธุรกิจได้ ยิ่งรู้จักและเข้าใจกลุ่มเป้าหมายมากเท่าไหร่ สินค้าและบริการของเราก็จะเข้าไปใกล้ผู้คนได้จำนวนมากยิ่งขึ้น การตลาดจะทำงานด้วยตัวมันเอง
ที่สำคัญ กุญแจที่นอกจากคำค้นหาที่ตรงใจลูกค้าแล้ว ยังคือความจริงใจที่แบรนด์นั้นได้แสดงออกมาให้ลูกค้าได้รับรู้ นี่จะยิ่งสร้างความเชื่อมั่นอย่างที่ลูกค้าจะถอนตัวไม่ขึ้นเลย
สุดท้าย ต่อให้ทุกคนจะมีเป้าหมายที่เหมือนกัน ก็มักจะมีวิธีการที่แตกต่างกัน และถึงแม้กลยุทธ์และระบบต่างๆ จะลอกเลียนแบบกันได้ แต่สิ่งที่ทำไม่ได้ คือ การใส่ใจในธุรกิจ ยิ่งซื่อตรงต่อตัวเองมากเท่าไหร่ ผลตอบรับก็จะซื่อตรงกับความตั้งใจอยู่เสมอ ไม่มีเปลี่ยน…
…
อ้างอิง
https://bit.ly/3WUDAAN
https://bit.ly/3Rold5V
ภาพประกอบจาก Pexels
เรียบเรียงโดย: กองบรรณาธิการ 7DBook
