เมื่อยอดขายผ่านออนไลน์ตก ฉันทำอย่างไร ?
เมื่อยอดขายตก อย่าเพิ่งเครียด
แน่นอน แรกๆ ทุกคนก็ตกใจกันทั้งนั้น
กังวลกันไปว่าสถานการณ์แบบนี้ ใครจะมีอารมณ์มาซื้อของ
แต่…แล้วทุกวันนี้ เรายังซื้อของไหม ?
ถ้าเรายังซื้อของอยู่ แต่ละวันก็ยังใช้เงิน
ของมาส่งหน้าบ้านเกือบทุกวัน
ก็แสดงว่ามีคนขายได้ จริงไหม
อย่างแรกที่ต้องทำ “ตั้งสติก่อน”
เราขายอะไร ? ทำอะไรอยู่ ?
ถ้าขายออนไลน์อยู่ ถือว่าโชคดีแล้ว
เพราะตอนนี้ออนไลน์น่าจะเป็นช่องทางที่เราจะหาเงินกันได้ง่ายที่สุด
ก็คนไม่ค่อยออกจากบ้าน ห้าง ร้านปิดหมด
แต่คนยังจำเป็นต้องกิน ต้องใช้
ถ้าผ่านช่วงคนหายตกใจ แล้วยังยอดตกอยู่
ต้องกลับมาดูแล้วนะ ว่าเราพลาดอะไรตรงไหนไปรึป่าว
“พลิกวิกฤติ เป็นโอกาส”
กลับมาดูธุรกิจตัวเอง
สถานการณ์แบบนี้เป็นโอกาส หรือเป็นอุปสรรคกับเรา
ถ้าทำออนไลน์อยู่แล้ว มีฐานเดิม รักษาลูกค้าไว้ให้ดี ๆ
ยิ่งฐานลูกค้ามากและมีคุณภาพ เราจะกระทบน้อย
จริงอยู่ว่าคนมีกำลังซื้อน้อยลง
ตกงาน ขายของไม่ได้ รายได้ลด
กังวล ไม่กล้าใช้เงิน และอีกร้อยพันเหตุผล
แต่ยังมีคนที่มีกำลังซื้อ และถ้าของเราจำเป็นต้องใช้
ให้เขารู้สึกว่าของเรามีความจำเป็นกับเขามากพอ
จนเขาต้องการมาก ๆ เขาก็ซื้อ
โอกาสของคนทำออนไลน์ คือ เรามีช่องทางขายอยู่แล้ว
รักษาฐานลูกค้าเก่าให้ดี
ยิงแอดหากลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพเพิ่ม
อุปสรรค คือ คนมีกำลังซื้อน้อยลง กังวล ระมัดระวังในการใช้เงิน
เราก็ต้องหาทางพาลูกค้าที่ยังมีศักยภาพจ่าย มีตังค์ซื้อ
มาเจอสินค้าเราเพิ่ม โอกาสขายได้ก็เพิ่มขึ้นเอง
ถ้าคิดว่ายอดขายตก เพราะเศรษฐกิจไม่ดี
แล้วปล่อยมันตกไป มันก็ตก ไม่ทำอะไร มันจะดีขึ้นได้ไง
ถ้าคิดว่าเราจะทำอะไรได้บ้างให้มันดี
พัฒนาตนเอง พัฒนาสินค้า
เสริมจุดแข็ง ปิดจุดอ่อน
วางแผน ปรับกลยุทธ์กัน
สื่อสารกับลูกค้าให้ถูกกลุ่ม
ทำ content กระตุ้นความต้องการและปิดการขายรับตังค์กัน
“ใจต้องใหญ่”
ทำออนไลน์ เรารู้กันอยู่ว่าอยากให้คนเห็น ต้องยิงแอด
อยากขายได้วันละหมื่น ยิงแอด 50 บาท จะมีคนเห็นกี่คน
แล้วจะขายได้ถึงหมื่นได้ยังไง
จะขายได้เยอะขึ้น ต้องให้คนเห็นเยอะขึ้น
และต้องเป็นคนที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย มีโอกาสจะซื้อด้วย
วางแผนเลย ต้นทุนเท่าไหร่ ขายเท่าไหร่ จะยิงแอดกี่บาท
สมมติ ต้นทุน 50% อยากขายได้วันละหมื่น
วางงงบประมาณยิงแอดไปเลย 10-20%
กำไรเหลือวันละ 3,000 บาท โอเคไหม
ถ้าต้องไปหักค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ด้วยแล้ว
เหลือเท่าไหร่ ยังพอมีกำไรอยู่ไหม ?
แล้วถ้าต้นทุนมากกว่า หรือน้อยกว่า 50%
งบประมาณแอดเท่าไหร่ที่จะรับได้
ลองคิดกับธุรกิจตัวเอง ต้นทุนของตัวเองเท่าไหร่ แล้วตั้งงบประมาณมา
และเมื่อตั้งงบประมาณแล้ว ก็ต้องใช้
จะมาประหยัด กล้าๆ กลัวๆ เดี๋ยวเปิดเดี๋ยวปิดแอดไม่ได้
“ทุกอย่างต้องทำตามแผน”
ขายออนไลน์ ให้เหมือนแบบนักธุรกิจ
แผนธุรกิจที่ดี ไม่ใช้วิธีประหยัดงบโฆษณา
แต่จะใช้งบโฆษณายังไง ให้ได้ยอดขายเพิ่มขึ้นต่างหาก
“เราจะผ่านทุกปัญหาไปได้”
ขอบคุณภาพประกอบจาก : เว็บไซต์ Pixabay และ Freepik
บทความโดย : คุณทราย | ภัทรา อุ้มสิน
เจ้าของเพจบทความธุรกิจ : ผู้การทราย
และเจ้าของธุรกิจขายสินค้าเสื้อผ้าสำหรับเด็กที่มีผู้ติดตามมากกว่าแสนคน : The Kids indy – แฟชั่นชุดเด็ก เสื้อผ้าเด็ก