อย่าเพิ่งขายของออนไลน์ ถ้ายังไม่รู้ 3 สิ่งนี้ !
เป็นแม่ค้าออนไลน์..ใช่ว่าจะรุ่งเสมอไป เพราะโอกาสเจ๊งก็สูงมากเหมือนกัน เราจึงต้องระวังตัวเอาไว้ให้ดี !
คุณกำลังโพสต์ขายของแบบเดิม ๆ โดยไม่มีเทคนิคอะไรเลยอยู่หรือเปล่า ?
ในขณะที่คุณกำลังหลับหูหลับตาขายของแบบเดิม ๆ แล้วยอดขายก็ลดน้อยถอยหลังลงทุกวันเนี่ย รู้ไหมว่าคู่แข่งอีกหลายร้อยชีวิต เขากำลังพัฒนาร้านค้าออนไลน์ของตัวเองกันอยู่
ถ้าเป็นแบบนี้…จะตามเขาทันได้ยังไง (โดนแย่งลูกค้าหมดพอดี!)
อยากขายสินค้าให้ได้อย่างยั่งยืนบนโลกออนไลน์ ต้องหูตาไว รู้เท่าทันทั้งคู่แข่งและกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงต้องรู้ด้วยว่าสื่อเชียลนั้นขับเคลื่อนไปแบบไหน อย่างไร แล้วอะไรคือสิ่งที่เราควรทำต่อไปเมื่อมันเกิดการเปลี่ยนแปลง
เทคนิคและวิธีการดี ๆ จะทำให้ร้านค้าออนไลน์เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น เพราะฉะนั้นอย่าตะบี้ตะบันโพสต์ขายแบบเดิม ๆ เรียนรู้สิ่งใหม่ แล้วนำไปปรับปรุงร้านค้าของเรากันเถอะ
และนี่คือ 3 สิ่งสำคัญ ที่ทุกคนต้องรู้ก่อนเปิดร้านค้าออนไลน์ !
ข้อที่ 1 : มีคอนเซ็ปต์ และจุดยืนที่ชัดเจน
คอนเซ็ปต์ของร้าน ก็คือภาพลักษณ์ของแบรนด์
ลูกค้าจะจดจำเราได้หรือไม่ แล้วจะจดจำเราในรูปแบบไหน ขึ้นอยู่กับสิ่งเหล่านี้ล้วน ๆ
ขั้นตอนนี้ไม่ยุ่งยาก เรียกได้ว่าเป็นขั้นตอนที่สนุกและชิลสุด ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะคุณจะได้ใช้จินตนาการอย่างเต็มที่ ได้คิดฝันถึงภาพลักษณ์และคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ตามที่ใจต้องการ
ลองคิดดูสิว่าอยากให้ภาพรวมของร้านเราเป็นอย่างไร แนวไหน สไตล์ไหน
จะให้สวยหรูดูดี เฮฮาสนุกสนาน เรียบ ๆ แต่ทันสมัย หรือจะดูเขร่งขรึมและหนักแน่น (เลือกเลย ใช้จินตนาการให้เต็มที่!)
คอนเซ็ปต์ชัดแล้ว..ออกแบบป้าย+โลโก้ได้เลย
เมื่อรู้แล้วว่าอยากให้กลุ่มเป้าหมายจดจำเราในลักษณะไหน ขั้นต่อไปคือเราเตรียมป้ายชื่อร้านสวย ๆ กับโลโก้ที่โดดเด่น สะดุดตา และสร้างภาพจำได้เป็นอย่างดี
ในส่วนของป้ายและโลโก้นี้ เราจะจ้างมืออาชีพทำก็ได้..
แต่ถ้าทุนน้อย อยากเซฟต้นทุน ก็ออกแบบเองได้เลย ทำง่าย ๆ ทำเรียบ ๆ เพียงแค่เน้นให้คนจำได้ดีที่สุด โดยแอปพลิเคชันที่สามารถได้รับความนิยมสำหรับการออกแบบตกแต่งภาพนั้นก็มีให้เลือกเยอะมาก เช่น Line Camera(โทรศัพท์มือถือ) หรือ Canva.com (คอมพิวเตอร์)
ข้อที่ 2 : คีย์เวิร์ด Keyword (ขั้นเบสิค)
คีย์เวิร์ด (Keyword) เปรียบเสมือนกุญแจนำทาง ที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายค้นหาเราเจอในโลกออนไลน์
วิธีคิดง่าย ๆ ก็คือ ลองนึกดูว่าถ้ากลุ่มเป้าหมายต้องการค้นหาสินค้าของเราบนอินเทอร์เน็ต เขาจะพิมพ์ค้นหาด้วยคำว่าอะไร (ขั้นตอนนี้เดาใจล้วน ๆ แต่ต้องเดาบนหลักของความเป็นจริงด้วย อย่ามั่ว อย่าคิดเองเออเอง)
เช่น เขาอาจใช้คำง่าย ๆ ตรงไปตรงมาอย่าง ชั้นวางของ ชั้นวางของพลาสติก ชั้นวางของติดผนัง ชั้นวางหนังสือ ฯลฯ
และถ้าจะเดาอย่างมีหลักการมากขึ้น เรามีวิธีง่าย ๆ มาแนะนำ นั่นคือ การสังเกตจากคำแนะนำของเว็บไซต์ Google ค่ะ
เมื่อเราพิมพ์คำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่เราจะขายลงไปใน Google แล้วกดเสิร์ช..ให้เลื่อนลงมาด้านล่างสุด
จะเห็นได้ว่ามีคำสำคัญที่เกี่ยวข้อง และคนส่วนใหญ่ใช้ค้นหากันบ่อย ๆ แนะนำขึ้นมาหลายคำเลย ซึ่งเราสามารถนำคำเหล่านี้ไปใส่ในรายละเอียดสินค้า เพื่อใช้เป็นคีย์เวิร์ดที่ช่วยให้ผู้คนค้นหาร้านของเราเจอง่ายขึ้นได้
ข้อที่ 3 : SEO อย่างง่าย (แต่มีประสิทธิภาพ)
SEO คือ Search Engine Optimization หรือการทำให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาต้น ๆ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสที่ทำให้คุณขายสินค้าได้มากขึ้น !
SEO คือส่วนหนึ่งของการทำการตลาดออนไลน์ที่นับว่ามีความสำคัญอย่างมาก และเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เรามียอดขายสูงยิ่งกว่าเดิม แต่ปัญหาคือ..มันไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น อีกทั้งยังต้องศึกษาเรียนรู้เพื่อทำความเข้าใจ
และถ้าอยากเรียนรู้ SEO ขั้นพื้นฐาน แบบบ้าน ๆ เข้าใจง่าย เราสรุปมาให้แล้ว ดังนี้
1) มีคอนเซ็ปต์หลัก มีจุดยืนแค่เพียงเท่านั้นยังไม่พอ แต่ละโพสต์ที่เราลงบนสื่อโซเชียล ต้องชัดเจนด้วยว่าต้องการจะสื่อสารอะไร
2) คีย์เวิร์ดหลักที่เราใช้ ต้องสัมพันธ์กับเนื้อหานั้น ๆ ด้วย (อย่าใช้คีย์เวิร์ดมั่วๆที่ไม่เกี่ยวข้อง)
3) คีย์เวิร์ดหลักต้องตรงกับส่วนของ Tag คำอธิบายของเว็บไซต์
4) มีคีย์เวิร์ดหลักในชื่อสินค้า ในคำอธิบายสินค้า และในรายละเอียดอื่น ๆ ของสินค้า
5) มีคีย์เวิร์ดรอง ที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันกับคีย์เวิร์ดหลัก เช่น คีย์เวิร์ดหลักคือ ‘ชั้นวางของ’ เพราะฉะนั้น คีย์เวิร์ดรองจึงอาจเป็นคำว่า ‘ชั้นวางของไม้, ชั้นวางของติดผนัง, ชั้นวางหนังสือ’ หรืออีกหนึ่งตัวอย่างคือ คีย์เวิร์ดหลักคือ ‘มะม่วง’ คีย์เวิร์ดรองจึงอาจเป็น ‘มะม่วงอกร่อง, มะม่วงกวน, มะม่วงเปรี้ยว’
6) เนื้อหาบทความหรือคอนเทนต์ของเราไม่ควรซ้ำกับที่อื่น เพราะฉะนั้นเขียนขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเองดีที่สุด อย่าลอกผลงานของคนอื่นมา แล้วบทความก็ควรที่จะมีประโยชน์ ทันสมัย สะกดคำถูกต้อง อ่านแล้วเข้าใจง่าย (คุณภาพของบทความคือหัวใจหลักของ SEO)
7) อย่าใส่รูปเยอะเกินความจำเป็น หรือมีขนาดใหญ่เกินไป เพราะอาจส่งผลให้หน้าเว็บโหลดได้ช้าลง (ถ้าโหลดช้า คนรอไม่ไหว เขาก็หนีหานกันไปหมด)
8) สำหรับเว็บไซต์แล้ว ชื่อรูปภาพก็มีผลต่อการค้นหา เพราะฉะนั้นควรมีคีย์เวิร์ดหลักหรือคีย์เวิร์ดรองอยู่ในชื่อรูปภาพ (วางแผน SEO ตั้งแต่การบันทึกชื่อรูปภาพเลย) ใครที่ยังบันทึกรูปภาพเป็นตัวเลขหรือตัวอักษรที่ไม่มีความหมาย เปลี่ยนด่วนๆ
9) หลีกเลี่ยงการใส่คีย์เวิร์ดซ้ำ ๆ จำนวนมากในบทความ เพราะจะถูกมองว่าเป็นสแปมคีย์เวิร์ด
10) อย่าลืมตรวจสอบคุณภาพเว็บไซต์ของเราอยู่เสมอ อัพเดตเนื้อหาเป็นประจำ ติดตามผลว่าผู้คนเข้าเว็บไซต์เราเยอะไหน แล้วมีการเข้าเว็บไซต์ซ้ำหรือเปล่า (ถ้าเขาเข้าซ้ำแล้วซ้ำอีก สแดงว่าเว็บไซต์เรามีคุณภาพ)
หากคุณเป็นแม่ค้าออนไลน์มือใหม่..
อย่าเพิ่งกดดันตัวเอง อย่าคาดหวังว่าเราจะต้องรู้ทุกอย่างบนโลกออนไลน์ในระยะเวลาอันสั้น
เพราะหนทางสำเร็จที่แท้จริงมันต้องใช้เวลา ค่อย ๆ ฝึกฝน เรียนรู้ และพัฒนา แล้วผลลัพธ์จะดีขึ้นตามลำดับอย่างแน่นอน
อ้างอิง : ข้อมูลจากหนังสือ ทำเงินออนไลน์ ด้วยทุน 0 บาท
เขียนโดย : ลักขณา พรพรรณา
บทความโดย : กองบรรณาธิการ สำนักพิมพ์ 7D Book & Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก : เว็บไซต์ Pexels