เมื่อเป็นมนุษย์เงินเดือน หากมีค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น หรือคิดว่าเงินเดือนที่ตัวเองมีมันยังไม่มากพอ
หลายคนก็หาทางเลือก โดยการทำงานเสริม หรือทำจ๊อบพิเศษ เพื่อหาเงินเพิ่มจากงานประจำที่ตัวเองทำ ไม่ว่าจะเป็นการหางานจากข้างนอกหรือในบริษัท
เมื่อเรามีงานประจำ มันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำแต่งานประจำอยู่อย่างเดียว อาจจะด้วยหลากหลายเหตุผล เงินเดือนอาจไม่มากพอหรือต้องการทำในสิ่งที่ตัวเองรักบ้าง
แต่ปัญหาของมนุษย์เงินเดือนหลาย ๆ คนคือเรื่องของเงินเดือน บางคนเริ่มด้วยเงินเดือนจบใหม่ บางคนก็ได้เงินเดือนเยอะตั้งแต่เริ่มทำงาน
แต่เราก็ต้องยอมรับ ว่าส่วนใหญ่เริ่มด้วยเงินเดือนขั้นพื้นฐาน บางที่ 15,000 บางที่ 18,000 บางที่เงินเริ่มต้นได้น้อยกว่านี้ด้วยซ้ำ
โลกที่พัฒนาเร็วขึ้นในทุก ๆ วัน มูลค่าการใช้ชีวิตก็ต้องเพิ่มขึ้นด้วย เงินเดือนขั้นต่ำเป็นสิ่งที่วัยรุ่นส่วนใหญ่มองว่ามันจะไม่พออีกต่อไป
ด้วยปัจจัยพื้นฐานในการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่า ค่าเดินทาง ค่าอาหาร รวมไปถึงค่ากาแฟ ค่านั่นค่านี่สารพัดที่แพงขึ้นเรื่อย ๆ มิหนำซ้ำยังต้องเผชิญกับวิกฤตทางเศรษฐกิจอีกด้วย ใครว่ามนุษย์เงินเดือนหรือพนักงานออฟฟิศจะไม่ได้รับผลกระทบกับวิกฤตด้านการเงิน หากมองลึก ๆ มันก็กระทบกับทุกคนนั่นแหละ
หากลองคำนวณเงินเดือนขั้นต่ำกับปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต แน่นอนว่ามันอาจจะพอ แต่แค่คำว่าพอมันก็ไม่โอเคแล้วกับยุคสมัยนี้ หากเหลือเงินเก็บต่อเดือนไม่ถึง 2,000 มันก็เป็นเรื่องที่น่าหดหู่เหมือนกัน
ถ้าลาออกจากงานเพื่อหางานที่ได้เงินเดือนเยอะกว่าเดิม ก็คงเป็นเรื่องยาก อย่าลืม ว่าเรากำลังเผชิญกับวิกฤต ไม่ว่าจะเป็นโควิดและเศรษฐกิจ
บางคนถึงขั้นศึกษาเรื่องหุ้นหรือคริปโท แต่มันก็อาจจะเป็นการลงทุนที่สูงเกินไป ทั้งเวลาและต้นทุน และแน่นอน ถ้าหากมีฐานเงินเดือนเท่านี้ มันคงยากเกินไป
การทำงานเสริมจึงเป็นวิธีการหาเงินเพิ่มที่เหล่ามนุษย์เงินเดือนพยายามมองหา
แต่ปัญหาก็เกิดได้ทุกเมื่อ หากเราต้องทำงานเสริมหรือจ๊อบพิเศษที่บริษัทให้มา ถ้าบาลานซ์การทำงานประจำกับงานเสริมไม่ดีพอ มันอาจจะเป็นสิ่งที่หนักเกินไปสำหรับเรา
หากเราบริหารระหว่างงานประจำกับงานเสริมไม่ดี จากที่เราต้องเครียดกับงานหลักอยู่แล้ว กลายเป็นว่าเราต้องเครียดกับงานเสริมด้วย แต่ถ้าหากเราสามารถจัดการได้อย่างถูกวิธี เราก็สามารถหาเงินเพิ่มจากเงินเดือนได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่างานเสริมจะหนักเกินไป
นี่คือ 4 วิธีบริหารจัดการ เมื่อต้องทำงานประจำและต้องทำงานเสริมด้วย
1.วางตารางการทำงานที่เหมาะกับตัวเรา
เมื่อเราต้องบริหารทั้งการทำงานประจำและงานเสริม การวางตารางการทำงานถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมาก เพื่อไม่ให้เราทำงานหนักจนเกินไปในแต่ละวัน เพราะเราไม่สามารถทำงานเสริมได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว
แน่นอนว่างานประจำก็ต้องทำให้เสร็จลุล่วงในเวลาการทำงาน งานเสริมก็ต้องทำนอกเวลา อาจจะเป็น 2 ชั่วโมงก่อนเข้างาน หรือ 2 ชั่วโมงหลังเลิกงาน ไม่ก็ทำในช่วงวันหยุดไปเลย กำหนดเวลาให้ชัดเจน
มันจะได้ผล ก็ต่อเมื่อเรามั่นคงกับตารางงานที่เราวางไว้ หากไม่ มันจะทำให้เรามีงานเยอะเกินไป เพราะฉะนั้น ความคงเส้นคงวาเป็นสิ่งสำคัญ
2.อย่าใจลอย
เวลาในวันหนึ่งมักหมดไปกับการทำงานประจำ หากเราต้องการทำงานเสริม อะไรที่ทำให้เราใจลอย ลดสิ่งนั้นออกไป ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง เล่นเกม
แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราต้องลืมมันไปเลย เราสามารถหาเวลาให้มันได้ และนั่นก็หมายความว่าเราต้องบริหารเวลาให้ดีกว่าเดิม เราจะมีเวลา Free Time เมื่อไหร่ แต่แน่นอนว่างานต้องเสร็จก่อน
ในเวลาทำงาน ลองเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋า เพราะโทรศัพท์เป็นสิ่งที่ทำให้เราใจลอยได้มากที่สุด หากเราได้โฟกัสกับการทำงานมากที่สุด เราจะบริหารเวลาการทำงานได้ดียิ่งขึ้น
3.กำหนดเป้าหมายสำหรับงานเสริม
เราต้องกำหนดเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่ งานเสริมก็เช่นกัน
การมีเป้าหมายจะทำให้เราโฟกัสและสร้างแรงจูงใจในการทำงานได้มากขึ้น หากไม่มีเป้าหมาย มันอาจล่มตั้งแต่แรกก็ได้
ลองถามตัวเอง ว่าเราทำงานเสริมเพื่ออะไร แล้วอะไรคือการประสบความสำเร็จจากการทำงานเสริม เมื่อหาคำตอบเจอ มันจะเป็นแรงผลักดันให้เราตั้งใจทำให้สำเร็จ
4.หมั่นพัฒนาทักษะการทำงานเสมอ
หากคิดว่าตัวเองเก่งอยู่แล้ว นั่นแหละ มันจะเป็นจุดที่เราหยุดพัฒนา เพราะฉะนั้น อย่าคิดว่าตัวเองเก่งไปทุกอย่าง ให้คิดว่าตัวเองสามารถพัฒนาได้เสมอ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม
ทั้งงานประจำและงานเสริม เนื้องานอาจจะแตกต่างหรือเหมือนกันไปเลย หากเรามีความสามารถในระดับหนึ่ง พัฒนามันขึ้นไปอีก ถ้างานเสริมเป็นงานที่ไม่ถนัด เราต้องพัฒนาต่อยอดมันไปอีกขั้น
ปัจจุบัน มีช่องทางมากมายให้ได้เรียนรู้ ทั้งคอร์สเรียนฟรี YouTube และการลงทุนเพื่อความรู้ แน่นอนว่าเราจะไม่เสียมันไปโดยเปล่าประโยชน์
การบริหารเมื่อมีงานประจำกับงานเสริมอาจเป็นเรื่องที่ทำให้เราเครียดและสามารถทำลายวงจรชีวิตเราได้ แต่หากมีสิ่งที่กล่าวไปข้างต้น การบริหารจัดการก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป และเงินที่ได้จากการทำงานเสริมจะเป็นรางวัลให้กับเรา
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คงเป็นเรื่องของวินัยและความซื่อสัตย์ต่อตัวเราเอง หากเราขาดสองสิ่งนี้ไป รับประกันเลยว่าพังตั้งแต่ต้นแน่นอน
เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ 7D Book&Digital
ภาพประกอบจาก : Freepik