ต้นปีแล้วหลายคนคงเริ่มวางแผนหลาย ๆ อย่างที่จะทำในปีหน้ากันแล้ว เราเชื่อว่าหนึ่งในนั้นคงมีเรื่องการเงินแน่นอน เพราะปีนี้เป็นปีที่หนักสำหรับหลาย ๆ คน ไหนจะเรื่องเศรษฐกิจที่แย่อยู่แล้ว บวกกับโรคระบาดอย่างโควิดเข้ามาก็ยิ่งทวีคูณความแย่เข้าไปอีก
ยิ่งกับคนมีหนี้สินรัดตัว ถือว่าหนักหนาสาหัสสากรรจ์ไปกันใหญ่ หาเงินไปใช้หนี้ก็ลำบาก จะหันหน้าไปกู้ไหนก็ลำบาก เพราะที่มีอยู่ก็หาเงินมาใช้ไม่ทันอยู่แล้ว
เพราะงั้นลองทำใจเย็น ๆ แล้วเลื่อนอ่านข้างล่างกันสักหน่อย เพราะเรามีความลับที่ธนาคารไม่เคยบอกมาฝากกัน เผื่อจะได้กลับไปวางแผนการเงินปลดหนี้ปีหน้ากันได้ง่าย ๆ ปีหน้าจะได้หมุนเงินได้คล่องขึ้นอีกนิด
ลดได้ แต่ไม่เคยบอกว่าลดได้
อย่างที่รู้ ๆ กันว่าส่วนใหญ่แล้วธนาคารมักลดหนี้ให้กับคนที่ปิดบัญชีหนี้ก่อน หรือลูกหนี้ผ่อนดี เผลอ ๆ แถมบางครั้งธนาคารยังลดเงินต้นให้ด้วย แต่ในขณะเดียวกันธนาคารก็ลดหนี้ให้กับลูกหนี้แย่ ๆ ด้วย ขึ้นอยู่กับว่า ลูกหนี้เหล่านี้จะ กล้าต่อรองหรือเปล่า
คน 5 ประเภทที่ธนาคารลดหนี้
กลุ่มคนเหล่านี้ที่เรากำลังพูดถึงมีอยู่ 5 ประเภท ได้แก่
- ลูกหนี้ที่ใช้หนี้ปิดบัญชี
เมื่อลูกหนี้ต้องการจะใช้หนี้ทั้งหมด หรือปิดบัญชีหนี้ทั้งหมดที่มี บางธนาคารจะยื่นข้อเสนอให้โดยการลดเงินต้นให้ ส่วนจะลดเท่าไหร่ก็ตามแต่ระเบียบที่ธนาคารกำหนด
- หนี้ที่กำลังหมดอายุความ
หนี้ก็เหมือนอาหารที่มีวันหมดอายุ หนี้แต่ละประเภทมีอายุแตกต่างกัน อย่างเช่น หนี้บัตรเครดิตอายุความ 2 ปี หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล อายุความ 5 ปี และหนี้กู้ยืมเงินทั่วไปอายุความ 10 ปี เป็นต้น
แล้วทำไมหนี้ใกล้หมดอายุความถึงน่ากลัว?
เป็นเพราะว่าหากขาดอายุความไปแล้ว เมื่อเกิดการฟ้องร้องขึ้น ลูกหนี้สามารถขอให้ศาลยกฟ้องได้เนื่องจากหมดอายุความไปแล้ว ทำให้ลูกหนี้ก็ไม่ต้องจ่ายหนี้ก้อนนั้นอีกต่อไป
*ข้อควรระวัง* ผลของหนี้ที่ขาดอายุความ คือ มีหนี้ที่ต้องจ่ายเหมือนเดิม เจ้าหนี้ฟ้องได้เหมือนเดิม และศาลยังสั่งให้ชำระหนี้ด้วยการยึดหรืออายัดทรัพย์ได้เหมือนเดิม แต่อย่างที่บอกว่าลูกหนี้สามารถขอศาลให้สั่งยกฟ้องได้
- ลูกหนี้ NPL ที่กล้าต่อรอง
*หนี้ NPL หนี้เสีย หรือหนี้ที่ค้างชำระนานเกิน 90 วัน*
หนี้เสียไม่เคยสร้างรายได้ให้ธนาคาร แถมยังสร้างปัญหาให้กับธนาคารอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเรื่องความเชื่อมั่น หรือเรื่องที่นักลงทุนนไม่เข้ามาลงทุน ดังนั้นบางธนาคารจะยอมปิดบัญชีหนี้ แล้วเปิดบัญชีใหม่เพื่อสร้างสัญญาเงินกู้ฉบับใหม่ เพื่อเป็นการปกปิด NPL ไม่ให้เพิ่มภาระของสาขา
- ลูกหนี้ที่ขึ้นศาลและพิพากษาที่กล้าต่อรอง
เมื่อถึงขั้นฟ้องร้องเกิดขึ้น ลูกหนี้สามารถร้องขอต่อศาลให้ช่วยตัดลดดอกเบี้ยได้บ้าง (ลดได้แค่ดอก แต่ไม่สามารถขอลดเงินต้นได้เนื่องจากกฎหมายกำหนด)
- ยอดหนี้ที่น้อยกินไป ขายหนี้ทิ้ง เพราะฟ้องไม่คุ้ม
เมื่อยอดหนี้ที่เรามีน้อยเกินไป และฟ้องไปไม่คุ้ม ธนาคารจะขายหนี้ให้กับสถาบันทางการเงินอื่นไปตามทวงแทน ลูกหนี้สามารถเข้าไปคุยกับธนาคารเรื่องเงื่อนไขในการขอลดหนี้ได้เช่นกัน ซึ่งมักซื้อขายหนี้กันในราคาที่ต่ำมาก ๆ คุณอาจต่อรองได้มากกว่า 60% ได้ซ้ำ
เป็นหนี้ไม่ได้น่ากลัวกว่าที่คิด และการเป็นหนี้ต่อรองได้เสมอ และปัญหาใหญ่สุดที่ลูกหนี้ไม่กล้าคือ การต่อรอง ทำให้ท้ายที่สุดลูกหนี้อาจจะเสียทั้งบ้าน รถ และที่ดิน ทั้ง ๆ ที่ความจริงสามารถขอผ่อนผันได้บ้าง เพราะฉะนั้นอย่าลืม! ใครที่เป็นบุคคล 5 ประเภทข้างต้นแล้วส่งหนี้ไม่ไหว ลองเข้าไปคุยกับทางธนาคารดู
บทความโดย: รัตติยา นาเมืองรักษ์
กองบรรณาธิการ สำนักพิมพ์ 7D Book & Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Pexels