ถ้าพูดถึงแพลตฟอร์มที่ฮอตปรอทแตกที่สุดในตอนนี้ คงจะหนีไม่พ้น TikTok แพลตฟอร์มสัญชาติจีนที่สามารถเข้าถึงและเจาะกลุ่มคนในยุคปัจจุบันทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นหรือพวก Gen Z (พวกที่เกิดหลังปี 1995 เป็นต้นไป) อย่างที่ไม่มีแพลตฟอร์มไหนสามารถเทียบเคียงได้

ภาพถ่ายโดย Solen Feyissa จาก Unsplash
ถ้าพูดถึง TikTok แล้ว จะไม่พูดถึง Musical.ly ก็คงจะไม่ได้
Musical.ly เป็นแอปฯ ยอดนิยมที่ใช้สตรีมและแชร์วิดีโอขนาดสั้น (ประมาณ 15 วินาที) โดยมีผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านคน และมีฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์วิดีโอเพื่อสร้างความบันเทิงมากมาย เช่น การสร้างวิดีโอตลกขบขัน การทำลิปซิงค์ ฯลฯ จนแอปฯ นี้ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ยิ่งผู้ใช้แชร์วิดีโอจาก Musical.ly ไปที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Instagram ก็ยิ่งทำให้แอปฯ ได้รับความนิยมมากขึ้น
ต่อมาในเดือนสิงหาคม 2018 Musical.ly และ Tiktok ประกาศรวมตัวกันภายใต้ชื่อ TikTok และผู้ใช้และเนื้อหาทั้งหมดจาก Musical.ly ได้ถูกโอนไปที่ TikTok โดยอัตโนมัติ

ภาพโดย Alex Marginean จาก alexmarginean.medium.com
อเล็กซ์ จู (Alex Zhu) ผู้ร่วมก่อตั้ง Musical.ly และรองกรรมการผู้จัดการอาวุโสของ TikTok กล่าวว่า “การรวม Musical.ly และ TikTok เข้าด้วยกันเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากทั้ง 2 แอปฯ มีสิ่งที่เหมือนกัน นั่นก็คือ การสร้างคอมมูนิตี้ที่ทำให้ทุกคนสามารถเป็นนักสร้างสรรค์ได้”
TikTok มีพื้นฐานมาจากแนวคิดการสร้างวิดีโอสั้นเหมือนกับ Musical.ly แต่มีความแตกต่างกันที่ Musical.ly จะเน้นไปที่การสร้างวิดีโอลิปซิงค์มากกว่า แต่ TikTok ให้ผู้ใช้สามารถเลือกเสียงและเพลงประกอบวิดีโอได้หลากหลายกว่า ทั้งยังสามารถเพิ่มเอฟเฟกต์และฟิลเตอร์ลงในวิดีโอได้ง่าย ๆ บนสมาร์ตโฟนของคุณ
ดังนั้น ผู้ใช้ TikTok จึงสามารถสร้างวิดีโอได้อย่างหลากหลายตั้งแต่การเต้น ร้องเพลง แสดงมายากล วิดีโอตลก วิดีโอคู่รัก กีฬาผาดโผน สัตว์น่ารัก แฟชั่น ฯลฯ

ภาพถ่ายโดย Artem Podrez จาก Pexels
ความนิยมของ TikTok เพิ่มขึ้นได้อย่างไร?
นับตั้งแต่เปิดตัว ความนิยมของ TikTok ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในเดือนตุลาคม 2018 TikTok เป็นแอปฯ ที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดใน Apple Store ทั่วโลก มีรายงานว่า TikTok มีผู้ใช้งานมากกว่า 500 ล้านคนต่อเดือน โดยสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่นิยมเล่น TikTok มากที่สุด โดยมียอดดาวน์โหลดมากกว่า 80 ล้านครั้ง
แม้ว่าจะมี TikTok จะเป็นที่นิยมมากขนาดไหน แต่ TikTok เคยถูกระงับใช้ในสหรัฐอเมริกาเช่นกัน (รวมทั้ง WeChat ซึ่งเป็นแอปฯ ของจีน) ในช่วงที่ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอยู่ เนื่องจากทรัมป์เชื่อว่า TikTok จะเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ จนกระทั่ง โจ ไบเดน (Joe Biden) ประธานาธิบดีคนใหม่ได้ยกเลิกคำสั่งไปเมื่อไม่นานมานี้ Tiktok จึงกลับมาบูมในสหรัฐฯ อีกครั้ง

ภาพถ่ายโดย Jonathan Newton จาก The Washington Post
นอกจากนี้ เหตุผลบางประการที่อยู่เบื้องหลังความนิยมของแอปฯ TikTok ก็คือ ดารา และ คนที่มีชื่อเสียง
TikTok เป็นที่ชื่นชอบและใช้งานโดยคนดังหลายคน ไม่ว่าจะเป็น จิมมี่ ฟอลลอน (Jimmy Fallon) พิธีกรชื่อดังแห่งรายการ The Tonight Show ซึ่งเป็นคนหนึ่งที่ช่วยให้แอปฯ เป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้นในสหรัฐฯ นอกจากนี้ TikTok ได้จ่ายเงินให้กับคนดังหลายคนเพื่อให้ช่วยโปรโมตแอปฯ อีกด้วย
ฟอลลอนได้ติดแฮชแท็ก #TumbleweedChallenge และโพสต์วิดีโอบน TikTok เพื่อท้าคนดังและผู้ใช้ TikTok ทั้งหลายว่า พวกคุณกล้าที่จะกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้นหรือไม่ จนเทรนด์นี้ได้รับความนิยมไปทั่วโลก มีผู้รับคำท้านี้ 10.4 ล้านครั้งภายในหนึ่งสัปดาห์

ภาพโดย The Tonight Show จาก NBC
จะเห็นได้ว่าการเดินทางของแอปฯ TikTok น่าทึ่งมากเพียงใด
ความนิยมของ TikTok ที่แพร่หลายไปทั่วโลกเช่นนี้ ทำให้มีผู้คน เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ และแบรนด์ทั้งหลายอยากจะมีชื่อเสียงใน TikTok ดูบ้าง เพราะมันสะท้อนให้เห็นถึงการมีตัวตนในยุคดิจิทัล ทั้งยังสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแบรนด์ส่วนบุคคล (Personal Brand) ของแต่ละคนได้อีกด้วย
แต่การมีชื่อเสียงบน TikTok ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ด้วยผู้ใช้งานที่มีมากกว่า 500 ล้านคน TikTok จึงเป็นสมรภูมิเดือดสำหรับคนที่สร้างสรรค์คอนเทนต์ (Content Creator) ว่าจะทำอย่างไรให้คอนเทนต์ของคุณ “ปัง” และดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้มากที่สุด
ถ้าคุณกำลังทำธุรกิจหรือกำลังทำการตลาดอยู่ การใช้ TikTok นับว่าเป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสมที่สุดในตอนนี้ เนื่องจากมีเพียง 4% ของนักการตลาดเท่านั้นที่ใช้ Tiktok ซึ่งอาจเป็นเพราะ TikTok นั้นค่อนข้างใหม่เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Facebook หรือ Instagram นอกจากนี้ TikTok เองก็มักจะไม่ค่อยเปิดเผยตัวชี้วัดด้านการตลาดของพวกเขา ทำให้การทำการตลาดใน TikTok ไม่ค่อยชัดเจนนัก จนหลายแบรนด์ไม่กล้าใช้
แต่นั่นย่อมเป็นโอกาสที่ดีของคุณ!

ภาพถ่ายโดย cottonbro จาก Pexels
แม้ว่า TikTok ไม่มีพื้นที่สำหรับโฆษณาแบบดิสเพลย์และไม่สามารถแข่งขันกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ได้ในแง่ของการเป็นช่องทางการตลาด แต่การเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วของ TikTok ทำให้หลายแบรนด์เริ่มหันมาใช้ TikTok เป็นช่องทางการตลาดมากขึ้น
หลายแบรนด์ใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น การทำ Challenge หรือ การติดแฮชแท็ก (#) เพื่อโปรโมตแคมเปญการตลาดของแบรนด์ตัวเอง
ตัวอย่างเช่น แคมเปญ #InMyDenim ของแบรนด์ Guess ซึ่งแบรนด์ Guess ได้ใช้แพลตฟอร์ม TikTok ทำการตลาดด้วยการเชิญชวนผู้ใช้ TikTok ที่อยู่ในสหรัฐฯ ทุกคนติดแฮชแท็ก #InMyDenim และถ่ายวิดีโอขณะที่พวกเขาสวมยีนส์แบรนด์ Guess อยู่ และแคมเปญนี้ก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก
ถ้าคุณอยากสร้างแบรนด์บน TikTok สิ่งที่ควรคำนึงถึงก็คือ
มีกี่แพลตฟอร์ม ต้องแชร์ให้หมด!
คุณต้องขยันแชร์คลิปใน TikTok ของคุณลงบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น facebook Instragram หรือ Twitter ไม่จำเป็นต้องเป็นคลิปเดียวกันก็ได้ ให้เลือกเฉพาะคลิปที่น่าดึงดูดที่สุด วิธีนี้จะทำให้คุณมีโอกาสในการเข้าถึงผู้ชมได้มากขึ้น

ภาพถ่ายโดย Pixabay จาก Pexels
เวลาโพสต์สำคัญ
การโพสต์ในชั่วโมงเร่งด่วน เช่น ขณะเดินทางไปทำงาน จะทำให้ยอดวิวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และหากโพสต์ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์อย่างวันเสาร์และอาทิตย์ ยอดการเข้าถึงจะเพิ่มขึ้นถึง 30%
- วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ควรโพสต์ในเวลา 6.00-8.00 , 13.00-16.00 และหลัง 20.00 น. เป็นต้นไป แต่ไม่ควรเกิน 22.00
- วันเสาร์และวันอาทิตย์ ควรโพสต์ในเวลา 10.00-12.00 น. และหลัง 20.00 น. เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม วันเเละเวลาดังกล่าวก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ด้วย
ต้องสร้างคอนเทนต์ที่ดึงดูด
หากคุณเป็นคนหัวโบราณ TikTok อาจจะไม่ใช่แพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับคุณ คุณจะต้องปลดปล่อยความสร้างสรรค์ของคุณออกมาให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการทำ Challenge การแข่งขัน การเต้น วิดีโอตลก การแต่งหน้า และแฟชั่น อะไรก็ได้ที่สามารถดึงดูดความสนใจของคนดู
41% ของผู้ใช้ TikTok คือ กลุ่มวัยรุ่นที่ชอบสิ่งใหม่ ๆคอนเทนต์ของคุณต้องสดใหม่และอัปเดตอยู่เสมอ นอกจากนี้ คุณควรจะทำคอนเทนต์แบบ “ไวรัล” (Viral) หรือ พูดถึงกันแบบปากต่อปาก เพื่อดึงดูดผู้ชมของคุณ
คุณสามารถใช้แฮชแท็ก (#) เพื่อให้ผู้ชมเห็นโพสต์ของคุณ การใช้แฮชแท็กยอดนิยมทำให้ผู้ชมสามารถเห็นโพสต์ของคุณได้มากขึ้นและช่วยให้คุณเข้าถึงผู้ชมที่เหมาะสมกับแบรนด์ของคุณ
In-Feed Ads บนหน้าฟีดต้องสะดุดตา
จากงานวิจัยของนีลเซ่นในปี 2020 ชี้ให้เห็นว่า 43% ของผู้ใช้รู้สึกว่า โฆษณาบน TikTok ที่มีเนื้อหากลมกลืนไปกับคลิปที่ปรากฎอยู่บนหน้าฟีด สามารถสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ใช้บน TikTok ได้
ตัวอย่างเช่น Hulu แพลตฟอร์มซีรีส์ออนไลน์ชื่อดังที่เลือกใช้เนื้อหาบางส่วนจากซีรีส์ตลกยอดนิยมโปรโมตบน TikTok ในหน้าฟีดของพวกเขา ซึ่งวิธีนี้ดึงดูดสายตาผู้ชมเป็นจำนวนมากและทำให้ผู้ชมรู้สึกสนุกสนานอีกด้วย หรือ NFL (National Football League) ลีกกีฬาอเมริกันฟุตบอลในสหรัฐอเมริกา ที่เลือกใช้ TikTok เป็นพื้นที่สำหรับการเปิดฤดูการแข่งขันฟุตบอล หรือ Spotify ที่ปล่อยเพลงใหม่ ๆ ฮิต ๆ เผยแพร่ลงบน TikTok เป็นต้น
Branded Effect จากแบรนด์ดังที่ผู้ใช้ชื่นชอบ
การสร้างเอฟเฟกต์ของแบรนด์ ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่แบรนด์สามารถทำได้บน TikTok คุณควรออกแบบเอฟเฟกต์ที่มีตราสินค้าของแบรนด์ที่สามารถดึงดูดผู้ชม และสร้างความสนุกสนานไปพร้อมกับการโปรโมตแคมเปญของแบรนด์
ตัวอย่างเช่น แบรนด์ Fruit by the Foot แบรนด์ขนมรสผลไม้ที่ผลิตโดย General Mills และจัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ Betty Crocker ในอเมริกา พวกเขาใช้แคมเปญ #DJByTheFoot ที่เปลี่ยนผู้ใช้ให้กลายเป็นดีเจได้ด้วยเครื่องเล่นแผ่นเสียงเสมือนจริงและหูฟังที่ปรากฏบนหน้าจอพร้อมโลโก้แบรนด์ Fruit by the Foot ที่สามารถสร้างยอดวิวได้มากถึง 92.2 ล้านวิว หรือ EA Games บริษัทผู้ผลิต พัฒนาและจัดจำหน่ายวิดีโอเกมของสหรัฐอเมริกา กับแคมเปญ #PlayWithLife ที่เชิญชวนให้ผู้คนแสดงท่าทางที่ใช้ในชีวิตประจำวันเหมือนกับตัวละครในเกม The Sims ซึ่งก็สามารถยอดวิวได้สูงถึง 15.3 ล้านวิว

ภาพถ่ายโดย MART PRODUCTION จาก Pexels
สร้างชุมชนบน TikTok
TikTok ให้ความสำคัญกับธุรกิจขนาดเล็ก เพราะธุรกิจเหล่านี้มีส่วนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เราเริ่มเห็นว่าธุรกิจต่าง ๆ ตั้งแต่ขนาดเล็ก กลาง ไปจนถึงขนาดใหญ่ ต่างใช้ TikTok ในการบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ของแบรนด์ผ่านคอนเทนต์ที่น่าสนใจมากขึ้น เพราะ TikTok ไม่ได้เป็นเพียงแค่ช่องทางที่ทำให้แบรนด์ได้สร้างสรรค์วิดีโอเพื่อสร้างความบันเทิงและแบ่งปันสิ่งต่าง ๆ เท่านั้น แต่ TikTok ยังเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้แบรนด์หรือธุรกิจเล็ก ๆ สามารถสร้างชุมชนขนาดใหญ่บนโลกออนไลน์ได้ด้วยคอนเทนต์ที่น่าสนใจ
ตัวอย่างเช่น @pouncecatcafe คาเฟ่แมวที่ประสบความสำเร็จในการหาบ้านให้กับแมวและลูกแมวมากกว่า 1,700 ตัวในรัฐจอร์เจีย หรือ @designs.by.donnie โดย ดอนนี่ แกลลี่ (Donnie Galli) ในรัฐฟลอริดา เขาเป็นคนว่างงานที่ปรับเปลี่ยนพื้นที่ในโรงรถให้เป็นโรงงานขนาดย่อม แล้วนำเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่า ๆ มารีโนเวตให้เป็นของใหม่ และยังแบ่งปันภาพเบื้องหลังการทำงานบน TikTok จนได้รับความสนใจจากผู้ชมเป็นอย่างมาก

ภาพถ่ายโดย Andrea Piacquadio จาก Pexels
แล้วอนาคตของ TikTok จะเป็นอย่างไรต่อไป
แม้ว่าความนิยมของ TikTok จะพุ่งทะยานจนน่าตกใจ แต่ก็ยังไม่แน่ว่า TikTok จะเทียบเท่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Facebook Instagram sinv YouTube ได้หรือไม่ มันอาจจะหายไปเหมือนกัน Vine ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแชร์วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างมากเมื่อก่อนก็เป็นได้
เพื่อรักษาความนิยม TikTok จะต้องสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และค้นหาวิธีใหม่ ๆ ในการมีส่วนร่วมกับผู้ใช้ของพวกเขา นอกจากนี้ พวกเขาต้องทำให้ TikTok สามารถเชื่อมต่อกับธุรกิจ แบรนด์ต่าง ๆ และการตลาดให้มากขึ้น เพื่อให้ TikTok เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่คงอยู่ต่อไปให้นานที่สุด
เพราะปัจจุบัน แบรนด์ต่าง ๆ เริ่มหันมาสนใจ TikTok เพื่อทำการตลาดและขยายการเข้าถึงลูกค้าบนโซเชียลมีเดียมากขึ้น ถ้า TikTok สามารถใช้ประโยชน์จากการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ได้ TikTok ก็จะเป็นแลตฟอร์มที่เติบโตต่อไปได้และสามารถแข่งขันกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ได้อย่างแน่นอน
อ้างอิง:
How to Become TikTok Famous in 4 Easy steps จาก https://influencermarketinghub.com/how-to-become-tiktok-famous-in-4-easy-steps/
5 เทคนิคเพิ่มผู้ติดตามบน TikTok จาก https://www.rainmaker.in.th/5free-tiktok-follower/
What is TikTok? – The Fastest Growing Social Media App Uncovered จาก https://influencermarketinghub.com/what-is-tiktok/
TikTok กับ musical.ly ประกาศรวมเข้าด้วยกันภายใต้ชื่อแอป TikTok จาก https://www.it24hrs.com/2018/tiktok-musical-ly-merging-tiktok/
ส่องแบรนด์ระดับโลกทําการตลาดบน TikTok ยังไงให้ปัง จาก https://newsroom.tiktok.com/th-th/best-practice-brands-on-tiktok
. . .
หมายเหตุ: เป็นการแปลและเรียบเรียงพร้อมตัดทอนบทความตามความเหมาะสม
แปลและเรียบเรียงโดย: ปิ่นแก้ว ศิริวัฒน์
กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ 7D Book&Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Pexels, Unsplash, The Washington Post, NBC และ alexmarginean.medium.com