อย่าปล่อยให้ธุรกิจของลูกต้องหยุดชะงัก !
หากลูกของเรายังเป็นมือใหม่ ไร้ประสบการณ์ ก็คงไม่อาจหลีกหนีความผิดพลาดและล้มเหลวในโลกธุรกิจไปได้
ก้าวแรกในโลกธุรกิจนั้นไม่เคยง่าย…
ลูกไม่เพียงต้องต่อสู้กับบริษัทคู่แข่งที่อาจเหนือกว่าในทุก ๆ ด้าน แต่ยังต้องต่อสู้กับความหวาดกลัวภายในจิตใจของตัวเองด้วย
แม้ปากจะบอกว่า ‘ผมทำได้ / หนูต้องสำเร็จแน่’ แต่ภายในใจลึก ๆ แล้ว พวกเขาก็ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายเหมือนอย่างที่คนรุ่นพ่อรุ่นแม่เคยผ่านมา ทั้งกลัวความล้มเหลว กลัวขาดทุน กลัวลงทุนแล้วไม่คุ้ม ไปจนถึงกลัวว่าจะขาดสภาพคล่องจนต้องปิดกิจการไป
เด็กยุคนี้อยากพึ่งพาตัวเอง และกลัวการเป็นภาระของพ่อแม่มากที่สุด !
แต่ถึงแม้พวกเขาจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ โลกธุรกิจก็ยังซับซ้อนและน่ากลัวสำหรับพวกเขาอยู่ดี เพราะฉะนั้น ในฐานะของคนเป็นพ่อ/แม่ เราลองมาผันตัวเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจให้ลูกด้วย 6 ข้อคิดเหล่านี้กัน เพื่อที่จะเปิดทางให้พวกเขาได้ก้าวเข้าสู่โลกธุรกิจอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
ข้อที่ 1 ลงมือทำทันที
หากคุณลองถามลูกว่าอยากทำธุรกิจตอนไหน ร้อยทั้งร้อยจะตอบกลับมาว่า ‘เอาไว้ก่อน..รอให้พร้อมกว่านี้จะดีกว่า’
เพราะทุกคนต้องการความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าใครก็อยากเริ่มต้นธุรกิจด้วยความพร้อม ทั้งต้นทุนและประสบการณ์…จึงไม่ผิดเลยหากลูก ๆ ของพวกเราจะมีความคิดแบบนั้น
เพียงแต่ในโลกแห่งการทำธุรกิจ ‘การเอาแต่รอ’ จะยิ่งทำให้ลูกช้ากว่าคู่แข่งไปทีละก้าว จนกระทั่งวันหนึ่งลูกอาจทิ้งห่าง และวิ่งตามคู่แข่งพวกนั้นไม่ทัน
ข้อแนะนำที่ดีต่ออนาคตของลูก จึงเป็นการบอกให้พวกเขา ‘ลุยไปเลย!’ ทำให้เต็มที่ที่สุด
แน่นอนว่ามันอาจทุลักทุเลในวันแรก ๆ แน่นอนว่ามันจะเต็มไปด้วยอุปสรรคและจุดบกพร่อง แน่นอนว่าลูกจะยังไม่ร่ำรวยและสำเร็จในชั่วข้ามคืน แต่ลูกต้องอดทนทำมันต่อไป และระลึกเอาเสมอว่า…ยิ่งเริ่มต้นเร็ว ยิ่งมีโอกาสลองผิดลองถูกมากกว่าคนอื่น และนั่นคือจุดเริ่มต้นของคนสำเร็จ
ข้อที่ 2 ธุรกิจเป็นเรื่องของมืออาชีพ
‘มืออาชีพ’ คือผู้ที่จะอยู่รอดและคว้ากำไรได้
ไม่มีใครเป็นผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่แรกเกิด ทุกคนล้วนเคยเป็นมือใหม่ไร้ประสบการณ์กันมาทั้งนั้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าลูกจะต้องเดินย่ำอยู่กับที่ตลอดไป จำเอาไว้ว่า…ความเป็นมืออาชีพนั้นสร้างได้
ลูกต้องพัฒนาทักษะ หาคอนเนคชันใหม่ ๆ และคอยเติมเต็มความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารธุกิจอยู่เสมอ เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้ลูกกลายเป็นตัวจริงที่ทุกคนยอมรับ
ข้อที่ 3 นักธุรกิจที่เก่งสร้างโชคจากวิธีคิด
โชคชะตาของลูก…ลูกกำหนดได้
นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จไม่ยอมให้ใครมากำหนดชะตาชีวิต เพราะพวกเขาจะลิขิตเส้นทางชีวิตขึ้นมาด้วยมันสมอง ประสบการณ์ และความเก่งกาจของตัวเอง
ลูกคิดแบบไหน การกระทำที่ตามมาย่อมเป็นไปแบบนั้น และแน่นอนว่าวิธีคิดของลูกจะส่งผลโดยตรงต่อการบริหารธุรกิจ และมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของคนในองค์กร
ปรับเปลี่ยนแนวคิด เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้สำเร็จ…ลูกทำได้!
ข้อที่ 4 เป็นนักธุรกิจต้องใจถึงใจใหญ่
จำไว้นะลูก ‘ใจถึง ใจใหญ่ ใจกว้าง แต่อย่ายอมให้ใครเอาเปรียบง่าย ๆ’
ธุรกิจคือการลงทุน…การเสียเงินเพื่อใช้เป็นต้นทุนคือเรื่องธรรมดา หากลูกใจถึงกับเรื่องที่คุ้มค่า ในวันที่ผลลัพธ์ออกมา ลูกจะไม่เสียใจเลยที่ยอมจ่ายมันไป
ข้อที่ 5 คนทำงานเก่ง ไม่สำคัญเท่าคนทำเงินเก่ง
คนทำงานเก่ง อาจมั่งคั่งน้อยกว่านักธุรกิจที่วางแผนเป็นและรู้เทคนิคทำเงิน
ลูกจะขยันขันแข็งทำงานเกินกว่า 10 ชั่วโมงต่อวันไปทำไม ถ้าความเหนื่อยยากเหล่านั้นไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับความลำบากได้ ?
ลูกลองตอบคำถามข้อนี้ดู แล้วเลือกเอาว่าอยากเป็นนักธุรกิจที่เก่งกาจ มีความรู้รอบ แต่กลับต่อยอดมันให้กลายเป็นเม็ดเงินไม่ได้ หรืออยากเป็นนักธุรกิจที่ทำงานไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน และเหนื่อยน้อยลงด้วยเทคนิคหาเงินที่ชาญฉลาด
ลูกอยากเป็นคนที่ทำงานเก่ง หรือทำเงินเก่งกันแน่ ?
ข้อที่ 6 เลือกทำธุรกิจที่ตัวเองตกหลุมรัก
คุณฝืนมองหน้าคนที่ตัวเองเกลียดเข้าไส้ได้นานแค่ไหน ? แค่พูดคุยกันไม่กี่ประโยค พร้อมกับส่งรอยยิ้มแหย ๆ อย่างไม่เต็มใจให้ ก็นับว่าต้องใช้ความอดทนอย่างสูงที่สุดแล้ว
ถ้าการเจอฝืนอยู่กับคนที่เกลียดมันทรมาน การทำงานที่ไม่ได้รักก็คงไม่ต่างกัน
เลือกงานที่ลูกรัก เลือกทำธุรกิจที่ลูกสนใจ ไม่ว่าอุปสรรคจะมากแค่ไหน สุดท้ายลูกจะผ่านมันไปได้ด้วยดี
ข้อที่ 7 เพื่อนดี ๆ คำพูดดี ๆ สำคัญต่ออนาคต
มลพิษทางจิตใจจากคนใกล้ตัว คือสิ่งที่ทำร้ายเราได้มากกว่าคู่แข่ง
เพื่อนดี คนรอบข้างดี ธุรกิจของลูกจะยิ่งก้าวหน้า เพราะฉะนั้น การเลือกคบหาสมาคมกับคนที่พร้อมจะหยิบยื่นการกระทำดี ๆ คำพูดดี ๆ และความหวังดีให้กับลูก จึงเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าการหาวิธีโค่นล้มคู่แข่งเสียอีก
ถ้าความสัมพันธ์ไหนมันห่วย มีแต่เรื่องให้ปวดหัว ปวดใจทุกวัน…ลูกต้องรีบถอยออกมาให้เร็ว
ข้อที่ 8 ความไม่แน่นอนเป็นคู่แฝดกับคนทำธุรกิจ
ความแน่นอน คือความไม่แน่นอนในโลกธุรกิจ ลูกต้องเข้าใจว่าทุกอย่างมีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา…เตรียมรับมือกับมันให้ดี
เมื่อมีได้ ย่อมมีเสีย…เมื่อมีขาขึ้น ย่อมมีขาลง…
การทำธุรกิจเองก็เช่นกัน ไม่มีใครประสบความสำเร็จและสมหวังไปตลอดกาล ลูกต้องทำใจยอมรับให้ได้ว่าเมื่อมีกำไร สักวันหนึ่งลูกอาจล้มเหลวและขาดทุนบ้างเป็นธรรมดา
สิ่งสำคัญคือลูกจะทำอย่างไรต่อไป ลูกจะแก้ปัญหานั้นอย่างไร และวิธีการไหนที่จะทำให้ลูกฟื้นธุรกิจขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง
พ่อแม่อาจไม่ใช่ที่ปรึกษามืออาชีพสำหรับลูก แต่คำแนะนำเหล่านี้จะกลายเป็นเพื่อนคู่คิดที่ลูกจดจำ และชี้นำพวกเขาไปสู่หนทางที่ปลอดภัยและมีขวากหนามน้อยที่สุด
“แปดข้อนี้เป็นนามธรรม หากอยากให้ลูกจดจำชั่วชีวิต ก็ต้องให้แกลองเองทีละข้อครับ” — ธวัชชัย พืชผล
จับมือลูก ๆ เอาไว้ และคอยชื่นชมพวกเขาในวันที่สำเร็จ
อ้างอิง
หนังสือ ‘อย่ากลัวนี้ เรายังมีที่ยืน’ โดย ธวัชชัย พืชผล | วิชาอาแปะสอนรวย
. . .
บทความโดย: ณัฐริกา หลิมไทยงาม
กองบรรณาธิการ สำนักพิมพ์ 7D Book & Digital
ขอบคุณภาพประกอบจาก: เว็บไซต์ Pexels