ก่อหน้านี้เราได้รู้จักข้อสังเกตของธุรกิจขายตรงแบบชั้นเดียวไปแล้ว โดยมีข้อสังเกตหลัก เช่น การขายมีความเป็นกันเองกับลูกค้า คนขายต้องเป็นพนักงานหรือตัวแทนจำหน่ายเท่านั้น และคนขายไม่สามารถสร้างทีมขายเองได้ เป็นต้น
ข้ามไปอีกฟากของธุรกิจขายตรงคือ ธุรกิจขายตรงหลายชั้น (MLM) โดยส่วนใหญ่เราจะรู้กันผ่านแบรนด์ใหญ่อย่าง Amway กับ Giffarine และยังมีความแตกต่างกับการขายตรงชั้นเดียว รวมไปถึงการมีรูปแบบแยกย่อยแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับการเลือกใช้งานของผู้ประกอบการ
ในทางปฏิบัติก็ยังมีลักษณะเฉพาะอีกหลายอย่างที่มีต่างออกไปจากธุรกิจขายตรงชั้นเดียว
ในบทความนี้เราจะมารู้ข้อสังเกตุของธุรกิจขายตรงแบบหลายชั้นกันบ้าง
1.แผนการตลาดที่มีต้องมีความเป็นธรรม ไม่จำกัดลำดับ
ขอบเขตของธุรกิจขายตรงแบบหลายชั้นมีขนาดค่อนข้างกว้าง การทำธุรกิจไม่ได้จำกัดอยู่แค่พนักงานขายภายใน แต่สามารถกระจายออกไปภูมิภาคผ่านสมาชิกที่เป็น “ผู้จัดจำหน่าย” หรือ “ตัวแทนขาย” ในรูปแบบของบุคคลซึ่งเรียกว่า “นักธุรกิจ” ไม่ใช่บริษัท
ดังนั้น แผนการตลาดจึงต้องมีความชัดเจน เป็นธรรม ไม่เอาเปรียบสมาชิก
2. สมาชิกสามารถสร้างทีมขายเองได้
ธุรกิจขายตรงหลายชั้น ผู้สร้างทีมไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นผู้จัดการหรือหัวหน้าทีมฝ่ายเดียว แต่ยังเปิดโอกาสให้กับสมาชิกคนอื่นที่เป็นลูกค้าอยู่แล้วเข้าร่วมได้ด้วย
อย่าง Amway ผู้สนใจอยากขายสิค้าสามารถสมัครเข้าไปเป็น “นักธุรกิจแอมเวย์” เป็นคนขายได้เอง มีลูกค้าทั้งที่เป็นสมาชิกและลูกค้าทั่วไป
พร้อมกันนี้คนขายยังสามารถสร้างทีมขายเองเป็นเครือข่ายย่อยออกไปได้ มีการแบ่งระดับของสมาชิกในเครือข่าย คนชวนได้สิทธิ์เป็นหัวหน้าทีมขายดูแลเครือข่ายของตนเอง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการกระจายสินค้า
3. ตัวแทนขายได้รับผลตอบแทนจากยอดซื้อของตนเอง และได้จากยอดซื้อของตัวแทนขายที่เป็นสมาชิกของตนเอง
ในธุรกิจขายตรงชั้นเดียว ค่าคอมมิชชั่นจะคิดจากยอดขายที่ทำได้ แต่ฝั่งของธุรกิจขายตรงหลายชั้น จะได้รับผลตอบแทนคิดเป็น “เปอร์เซ็นต์” ที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้วจากยอดขายสินค้าของตนเอง และจะได้จากยอดขายของสมาชิกในทีมด้วย
โดยสมาชิกแต่ละชั้นของเครือข่ายจะได้รับค่าตอบแทนที่ต่างกันไปขึ้นอยู่กับตำแหน่งในเครือข่าย ผู้จัดการภูมิภาคได้ส่วนแบ่งของตัวเอง และส่วนแบ่งจากผู้จัดการเขตขายได้ ส่วนผู้จัดการเขตได้ส่วนแบ่งของตัวเอง และส่วนแบ่งจากพนักงานขาย
4. ผู้ที่สนใจเข้าร่วมมักต้องเสียค่าสมัครสมาชิก
เนื่องจากธุรกิจขายตรงแบบหลายชั้นเปิดให้คนจำนวนมากที่สนใจนอกจากเข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่ายจึงมักมีการเรียกเก็บค่าสมัครสมาชิกตั้งแต่หลักร้อยไปถึงพันเพื่อแลกกับสิทธิพิเศษ
ในหลายบริษัทผู้สมัครจะได้รับสิทธิ์ในการซื้อสินค้าลดราคาฟรีตลอดการเป็นสมาชิกของบริษัทเป็นการแลกเปลี่ยน
5. ผู้ขายไม่ต้องสต๊อกสินค้า
ในขณะที่ธุรกิจออนไลน์ทั่วไป ผู้ขายจำเป็นต้องมีสถานที่เอาไว้เก็บสินค้า เช่น บ้านของตนเอง แต่ในธุรกิจขายตรงหลายชั้น นักธุรกิจซึ่งเป็นคนขายไม่ต้องมีที่เก็บสินค้าของตนเอง เนื่องจากแบรนด์จะมีโกดังเก็บสินค้าไว้ให้
ทำให้เมื่อมีออร์เดอร์ของแต่ละจังหวัดเข้ามา ผู้จัดการประจำภูมิภาคก็จะมาสั่งซื้อสินค้าตามจำนวนที่ลูกทีมแต่ละจังหวัดในภูมิภาคแจ้งเอาไว้ จากนั้นจึงนำเอาไปกระจายให้ผู้จัดการเขตซื้อไปขายต่อให้กับลูกค้าได้เลย
นอกจากนี้ หากสมาชิกในเครือข่ายระดับจังหวัดคนไหนทำยอดขายได้ดี ก็มีโอกาสได้รับการโปรโมตผ่านสื่อออนไลน์ และสามารถเลื่อนตำแหน่งจากผู้ขายไปเป็นตัวแทนจำหน่ายและผู้จัดการต่อเพื่อรับเปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งที่มากขึ้น
เรียบเรียงโดย: กองบรรณาธิการ 7D Book&Digital