กระตุ้นยอดขาย เพิ่มผู้ติดตาม สำหรับแม่ค้าออนไลน์

เมื่อจะขายของบนโซเชียล ขอให้นึกไว้เสมอว่า กลุ่มเป้าหมายไม่ได้มีตัวเลือกแค่เราคนเดียว
อย่าคิดว่าการทำธุรกิจมันเป็นเรื่องงายดายขนาดนั้น ถ้าเราไม่เรียนรู้ ไม่หาเทคนิค สุดท้ายก็จบด้วยความล้มเหลว ไม่มียอดขายตามเดิม
แล้วถ้าเจ๊ง กว่าจะเริ่มใหม่ได้ คงอีกนานน่าดู เพราะการขายของออนไลน์ในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
นึกย้อนกลับไปตอนนั้น ก่อนนำสินค้ามาขาย เราวาดฝันซะสวยหรู ประมาณว่า ‘เปิดร้านครั้งนี้ ยอดขายปังแน่นอน!’ แต่เอาเข้าจริง มันไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะคู่แข่งอยู่รอบตัวเราเต็มไปหมด
มีร้านค้าออนไลน์บนโลกโซเชียลทยอยเปิดใหม่กันตลอดปี ลองกวาดตามองรวม ๆ แล้ว คิดว่าในเดือนหนึ่งคงมากกว่าพันร้านอย่างแน่นอน จะให้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทุกวัน คงเป็นไปไม่ได้หรอกจริงไหม
แต่ถ้าท้อ แล้วไม่พยายามเลย สุดท้ายคงไปไม่รอดยิ่งกว่าเดิม หลายคนจึงหันมาทำการ Live สดขายสินค้าตามคนดังกันยกใหญ่
แต่การ Live สด ก็ไม่ง่ายอีกนั้นแหละ เพราะถึงแม้จะเป็นการ Live จะช่วยเพิ่มปฏิสัมพันธ์และกระตุ้นยอดขายชั้นยอด แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ทำแล้วผลลัพธ์จะออกมาดี
เพราะถ้าไม่มีเทคนิค แทนที่จะปัง..คงพังเละ
วันนี้เราจึงจะมาสรุป 9 เทคนิคการ Live สด จากคุณภัทรกร รุ่งเรือง เจ้าของเพจเปรี้ยงที่มียอดขายสุดปังตลอดทั้งปีมาให้ทุกคนได้อ่านกัน
ทำอย่างไร…ไปดูกัน
เทคนิคที่ 1: ให้แบบไม่กั๊ก
ถ้าอยากได้ใจคนดู อยากมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นเยอะ ๆ อย่าขี้หวง
มีเทคนิคหรือความรู้อะไร ให้แบบจัดเต็มไปเลย
ยิ่งคนนำเทคนิคของเราไปใช้ แล้วมีผลลัพธ์ ผู้คนในโลกโซเชียลก็ยิ่งบอกต่อ ทำให้ยอดผู้ติดตามเราสูง ซึ่งเป็นผลดีกับการไลฟ์สดขายของในอนาคตแน่นอน
ถ้ามัวแต่กังวลว่า ‘เอ้ะ…บอกหมด ก็โดนขโมยสูตรอะดิ!’ จะมีคนชอบไหม ?
เห็นแบบนั้นแล้ว คงไม่มีใครอยากติดตามเราต่อแน่ เพราะเขาจะคิดว่าเราไม่จริงใจ แถมยังไร้ประโยชน์อีก
เพราะถ้าเขาส่องเราไปนาน ๆ แล้วพบว่า ‘เห้ยย..คนนี้หวงสูตรจัง’ เขาก็จะเบะปาก มองบน แล้ว
เมื่อผู้คนทยอยกด ‘เลิกติดตาม’ ฐานแฟนของเราก็จะลดน้อยลงอย่างน่าใจหาย กลายเป็นว่า ความขี้งกของเรา ทำให้ขายของยากยิ่งกว่าเดิม
เทคนิคที่ 2: อย่าโอ้อวด
การขี้โม้ โอ้อวด คุยโวจนเกินความจริง ไม่เคยส่งผลดีกับใคร
โดยเฉพาะเมื่อคุณเป็นแม่ค้าขายของออนไลน์ ที่ปรากฏหน้าตาของตัวเองบนโลกโซเชียลทุกวี่วัน
ลองคิดดูสิ ตลอดการ Liveสด เอาแต่พูดถึงเรื่องความเก่ง ความขายดีของตัวเอง ใครจะไปอยากฟังล่ะจริงไหม แล้วนอกจากจะไม่อยากฟัง คนคงเบื่อหน้าเราอย่างมากอีกด้วย
ธรรมชาติของคนเราน่ะ ชอบคนเก่ง ชอบคนลงมือทำจริงแล้วเห็นผลลัพธ์ ไม่มีใครชอบคนขี้โม้คุยโวหรอกนะ
เพราะฉะนั้น เลิกโม้ แล้วลงมือทำจริงให้เขาเห็นไปเลย
เทคนิคที่ 3: การเล่าเรื่องเดียวกัน
เนื้อหาเดิม ๆ แต่เล่าแตกต่างกัน สามารถสร้างความรู้สึกที่แตกต่างกันได้
เช่น เราเล่าเรื่อง ‘ความสำเร็จจากยอดขายเมื่อเดือนก่อน’ เราสามารถเล่า แล้วทำให้คนรู้สึกหมั่นไส้ได้
แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ทำให้เขารู้สึกชื่นชม ชื่นชอบ และอยากติดตามในความเป็นผู้เชี่ยวชาญของเราได้
แล้วถ้าในอนาคตคุณคิดจะทำมาค้าขายบนโลกออนไลน์ คุณจะทำให้ผู้ฟังรู้สึกอย่างไรกับการเล่าเรื่องของคุณล่ะ ‘หมั่นไส้ หรือ ชื่มชม’ ลองเลือกดู
เทคนิคที่ 4: หนึ่งนาทีแรกต้องโดนใจ
เพราะนาทีแรก สำคัญที่สุด
อย่างที่รู้กันดี ว่าโลกโซเชียลมีอะไรให้เราเลือกดูเลือกอ่านตั้งเยอะแยะ
ถ้าเราไม่สามารถดึงดูดผู้ติดตามเอาไว้ด้วยเรื่องที่เป็นประเด็นน่าสนใจหรือให้ประโยชน์ตั้งแต่นาทีแรก คนดูก็จะเลื่อนนิ้วหนี้หายไปเพจอื่นหมดแน่นอน
เทคนิคที่ 5: หลักการอย่างเดียวไม่เวิร์ค
ถึงแม้เราจะบอกอยู่เสมอว่า ถ้าอยากมีผู้ติดตามเยอะ ๆ ต้องให้สิ่งที่มีประโยชน์กับพวกเขานะ
แต่ในความเป็นจริง จะมีสักกี่คนที่สามารถฟังเรื่องมีสาระเป็นหลักการจริงจังได้นาน ๆ ?
เพราะฉะนั้น เราต้องมีเทคนิคการเล่าเรื่อง เวลาพูดต้องมีตัวอย่าง อธิบายให้เห็นภาพ หรืออาจทดลองเล่าเรื่องชีวิตประจำวันร่วมกับสิ่งที่เราจะนำเสนอดู แล้วใส่เสน่ห์ความเป็นตัวเองเข้าไป
ทำแบบนี้…รับรองว่าแฟนเพจติดหนึบ
เทคนิคที่ 6: ทำให้ง่ายเข้าไว้
บางอย่าง ถ้ามันยุ่งยากซับซ้อนเกินไป นอกจากคนจะงงแล้ว ยังเบื่อง่ายอีกด้วย
เพราะฉะนั้น ทำเรื่องยาก ให้เป็นเรื่องง่าย ถ้าต้องพูดอธิบายอะไรหน้ากล้อง ก็เล่าให้เป็นภาษามนุษย์ อย่าเอาคลังศัพท์วิชาการแปลก ๆ มาพูดเยอะเกิน
สรุปง่าย ๆ ว่า ตอนพูดใน Live ทำอย่างไรก็ได้ให้คนเข้าใจ
เทคนิคที่ 7: ใส่ตัวเลขประกอบ
ในหัวเรื่องบน Live สดของเรา ถ้าใส่ตัวเลขเข้าไป จะช่วยดึงดูดสายตาของผู้ที่กำลังจะเลื่อนนิ้วผ่านได้ !
โดยธรรมชาติของมนุษย์อย่างเรา มักได้เห็นตัวหนังสือเยอะ ๆ ผ่านตามาทั้งวัน จึงมักจะเตะตากับตัวเลขบนหน้าจออยู่เสมอ
เช่น คืนนี้ทุ่มตรง Live สดเรื่อง 4 วิธีพิชิตใจชายหนุ่ม หรือ 10 วิธีเกษียณก่อนอายุสามสิบ !
เทคนิคที่ 8: เว้นจังหวะในการเล่า
อย่าเอาแต่พูดรัว ๆ ตลอดการ Live (สนใจคนดูบ้าง)
หลังจากที่พูดมานาน ลองมีช่วงพักหายใจด้วยการตอบคำถามจากคนที่เข้ามาดู Live แล้วคอมเมนต์ หรือเมื่อมีคนใหม่ ๆ เข้ามาดู ลองทักทายเรียกชื่อ ทำความรู้จัก เพิ่มความสนิทสนม
ทำให้เขารู้สึกว่าเราใส่ใจ และอ่านคอมเมนต์อยู่นะ เขาจะได้ติดตามเราไปนาน ๆ
พอเขารักเรา ต่อไป…ถึงจะเริ่มขายของก็ไม่ต้องกลัวโดนบล็อค
เทคนิคที่ 9: ตอนจบต้อง Smart stop
อย่าจบ Live ไปแบบห้วน ๆ จบดื้อ ๆ ไม่เอา
เราต้องสรุปจบให้ดี มี Landing สวย ๆ โดยอาจทำให้เขาเห็นถึงข้อคิด หรือทำให้เขามีกำลังใจ รู้สึกว่าได้รับแรงผลักดันจากเรา
สิ่งนี้ นอดจากจะทำให้เขารู้สึกดีแล้ว มันยังมีผลต่อยอดผู้ติดตาม และ comment, Like, Share อย่างมากอีกด้วยนะ
เมื่อจะเริ่ม Live สด เพื่อต่อยอดไปทำธุรกิจ อย่าเพิ่งวู่วาม อย่าขายของจนคนกลัว
ถ้าอยากได้ฐานแฟนคลับที่รักเราจริง หรืออยากได้ผู้ติดตามที่เหนียวแน่น ก่อนจะขายของ ลองให้ใจเขา่ก่อน
อย่าที่บอก…อย่ากั๊กเลย หวงความรู้ไปไม่มีประโยชน์หรอก
ลองเป็นฝ่ายให้ดูก่อน เมื่อผู้รับสัมผัสได้ถึงความจริงใจ มันจะกลายเป็นความสัมพันธ์อันดีบนโลกโซเชียล และเกิดการบอกต่อ
และที่สำคัญ เมื่อเขารักเรา หากมีการขายสินค้าหรือทำธุรกิจบนเพจ คนกลุ่มนี้จะตามมาสนับสนุน เขาจะไม่บล็อค ไม่รำคาญที่เราขาย แต่จะช่วยผลักดันให้ยอดขายพุ่งทะลุเป้า
อ้างอิง: 9 สิ่งสำคัญในการทำ Live ให้เปรี้ยง
จากหนังสือ: ขายดีเพราะ Live สด
เขียนโดย: ภัทรกร รุ่งเรือง (เจ้าของเพจ เปรี้ยง)
. . .
บทความโดย: กองบรรณาธิการ สำนักพิมพ์ 7D Book & Digital
ขอบคุณรูปภาพ : เว็บไซต์ Pexels